"ปิดฝา" ก่อน "กดชักโครก" ช่วยลดการแพร่ระบาด "โควิด-19"
นักวิทยาศาสตร์ศึกษาแบบจำลองของการกดน้ำชักโครกและการไหลเวียนของอากาศในห้องน้ำและพบว่าละอองฝอยที่ฟุ้งขึ้นมาจากการกดชักโครกดูเหมือนจะแพร่กระจายออกไปเป็นวงกว้างและไกลพอที่คนจะสูดหายใจเข้าไปได้
แม้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะถูกตรวจพบในอุจจาระของผู้ป่วยโควิด -19 บางรายก็ตามแต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเชื้อไวรัสในอุจจาระนี้มีปริมาณมากพอที่จะทำให้ติดเชื้อได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามนักวิจัยบอกว่าความเป็นไปได้ของโอกาสการแพร่เชื้อด้วยวิธีนี้ทำให้ควรมีการป้องกัน เพราะเรามักจะเรียนรู้ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับเชื้อโรคโควิด -19 อยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญที่สุดนักวิจัยแนะนำให้ปิดฝาชักโครกก่อนที่จะกดน้ำ
Ji-Xiang Wang นักวิจัยซึ่งศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของเหลวที่มหาวิทยาลัย Yangzhou University ของจีนและเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้กล่าวว่าการกดน้ำชักโครกจะดันไอละอองซึ่งมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ให้ลอยขึ้นมาจากโถสุขภัณฑ์ ดังนั้นผู้ใช้ห้องน้ำจึงจำเป็นต้องปิดฝาชักโครกก่อน จากนั้นจึงกดน้ำและล้างมือให้สะอาดด้วย
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวด้วยว่าคนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดของโถส้วมผิดจุด เช่นความหวาดระแวงเกี่ยวกับพื้นผิวของที่นั่งทำให้มักต้องวางกระดาษทิชชู่แผ่นบางๆ ลงบนแป้นที่นั่งอย่างระมัดระวัง แต่ที่จริงแล้วการแพร่เชื้อจากการสัมผัสทางผิวหนังนั้นมีความเสี่ยงต่อสุขภาพค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่กดชักโครก นั่นคือเมื่อชิ้นส่วนเล็กๆ ของอุจจาระถูกเหวี่ยงหมุนอย่างแรงในโถส้วมจนอาจฟุ้งลอยขึ้นไปในอากาศได้สูงถึงกว่าสามฟุตและกลายเป็นละอองฝอยติดอยู่ตามพื้นผิวในห้องน้ำได้
Charles P. Gerba นักจุลชีววิทยาที่มหาวิทยาลัย University of Arizona กล่าวว่าแม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่าห้องน้ำสาธารณะมีส่วนในการแพร่กระจายของไวรัสที่อยู่ในระบบทางเดินอาหาร เช่นโนโรไวรัสซึ่งมักระบาดในเรือสำราญ แต่ยังไม่พบหลักฐานการแพร่เชื้อเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจในห้องน้ำ
ถึงกระนั้นก็ตามความเสี่ยงของเรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นศูนย์เสียทีเดียว โดย Charles P. Gerba นักวิจัยผู้ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องชักโครกและโรคติดเชื้อมาเป็นเวลา 45 ปีกล่าวว่าสิ่งที่ยังไม่ทราบแน่ชัดในขณะนี้คือการกดชักโครกในห้องน้ำนั้นทำให้เชื้อไวรัสโคโรนาแพร่กระจายได้มากแค่ไหน และจะต้องใช้เชื้อมากเท่าไหร่ถึงจะติดได้
และถึงแม้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐจะชี้ว่ายังไม่ชัดเจนว่าไวรัสที่พบในอุจจาระนั้นจะทำให้คนติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่ และยังไม่เคยมีรายงานยืนยันการแพร่กระจายของไวรัสจากอุจจาระไปสู่คน แต่การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Physics of Fluids เมื่อกลางเดือนมิถุนายนแนะว่าการปิดฝาชักโครกและการล้างมือหลังการระบายทุกข์จะช่วยป้องกันการแพร่ไวรัสในห้องน้ำได้ และเสนอให้บรรดาผู้ผลิตเครื่องสุขภัณฑ์ผลิตชักโครกที่สามารถปิดฝาและทำความสะอาดตัวเองได้แบบอัตโนมัติ รวมทั้งยังแนะนำให้ผู้ใช้ห้องน้ำเช็ดทำความสะอาดที่นั่งทั้งก่อนและหลังใช้ด้วย
อย่างไรก็ตาม Charles P. Gerba นักจุลชีววิทยาที่ University of Arizona กล่าวว่าสำหรับตัวเขานั้นที่นั่งไม่ใช่ปัญหาสำคัญที่สุด เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการปิดฝาชักโครกก่อนที่จะกดน้ำ ซึ่งตัวเขาเองก็ทำเช่นนั้นมานานหลายสิบปี เขาแนะนำด้วยว่าไม่ควรวางแปรงสีฟันไว้ใกล้ๆ กับชักโครกสำหรับห้องน้ำที่บ้าน และสำหรับห้องน้ำสาธารณะที่ไม่มีฝาปิดนั้นเขาแนะว่าควรกดชักโครกแล้วรีบออกจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด และไม่ควรใช้เวลาอ้อยอิ่งอยู่ในห้องน้ำสาธารณะ โดยเฉพาะถ้าเป็นที่ๆ ไม่มีระบบหมุนเวียนถ่ายเทอากาศที่ดีพอ