6 เคล็ดลับช่วย "ลดอายุ" ที่ควรรีบทำก่อนอายุ 30
วัย 30 ปี เป็นวัยที่ร่างกายเริ่มมีการถดถอยทางชีวภาพแบบเงียบๆ ไม่ทันได้ตั้งตัว ดังนั้นจึงมีหลายอย่างที่หมออยากจะแนะนำให้สาวๆ หนุ่มๆ วัยก่อน 30 ปีเริ่มทำตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยลดอายุให้คงความหนุ่มสาวเอาไว้ได้ตั้งแต่ที่ร่างกายยังสมบูรณ์เต็มที่อยู่
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือคุณหมอผิง แพทย์วุฒิบัตรเวชศาสตร์ชะลอวัย (สหรัฐอเมริกา) ให้คำแนะนำกับทุกๆ คนเอาไว้ ดังนี้
6 เคล็ดลับช่วย "ลดอายุ" ที่ควรรีบทำก่อนอายุ 30
- ครีมกันแดด คนเรามักให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดด เมื่อเริ่มมีจุดด่างดำบนใบหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สายเกินไปแล้ว การทาครีมกันแดดเป็นประจำ ควรเป็นหนึ่งในกิจวัตรที่ทำทุกวันตั้งแต่เด็ก แม้ในวันที่อยู่บ้าน เพราะรังสียูวี และอินฟราเรดสามารถทะลุผ่านกระจกหน้าต่างเข้ามาทำร้ายผิวเราได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ส่วนตัวหมอเองทาครีมกันแดดมาตั้งแต่วัยรุ่น แต่ก็มีจุดที่พลาดคือ เน้นทาเฉพาะใบหน้าและลำคอ ส่งผลให้ผิวบริเวณแขนและหลังมือมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอและเรียบเนียนเท่าหน้าและคอ
- ทำความรู้จัก เข้าใจ และอย่าไปฝืนนาฬิกาชีวภาพ ร่างกายคนเรามีนาฬิกาชีวภาพฝังอยู่ภายใน เพื่อกำหนดให้ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนในเวลากลางคืนเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ส่งผลให้เกิดการซ่อมร่างขณะหลับ ก่อนวัย 30 เรายังมีความสามารถฝืนนาฬิกาชีวภาพได้สบาย นอนดึกตื่นสาย เปลี่ยนเวลานอนไปมาโดยไม่รู้สึกเพลีย แต่ไม่รู้เลยว่าส่งผลเสียต่อร่างกายมากน้อยแค่ไหน จนอายุหลัง 30 ไป บางคนอาจเริ่มรู้สึกได้ว่า เมื่อฝืนนอนดึกมากๆ จะเห็นความทรุดโทรมทางใบหน้าและความฟิตของร่างกาย
- ออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อ ควรสอนให้ตัวเองโฟกัสการออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อ เพื่อเป็นต้นทุนทางร่างกาย เพราะหลังอายุ 30 ไป กล้ามเนื้อจะหดหายจากเราไปได้ง่ายมาก และสร้างขึ้นมายากกว่าเมื่อสมัยวัยรุ่น กล้ามเนื้อมีส่วนสำคัญกับการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกาย การจัดการกับระดับน้ำตาลในเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รูปร่างดูฟิตสุขภาพดี
- เลี่ยงอาหารก่อการอักเสบ (Pro-inflammatory foods) เรามักถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่า กินอาหารให้ครบห้าหมู่ก็ดีต่อสุขภาพแล้ว แต่ไม่ค่อยมีใครบอกเราว่า มีอาหารบางประเภทที่ก่อให้เกิดการอักเสบในระดับโมเลกุล ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเราแก่เร็วขึ้นได้ และที่สำคัญคือ อาหารกลุ่มนี้เป็นอาหารชวนอร่อยที่หลายคนชอบ เช่น ขนมหวาน น้ำหวาน ของทอด เนื้อแปรรูป เนื้อแดง ส่วนตัวหมอเองแม้จะทราบข้อเท็จจริงนี้ แต่ก็แอบเกเรรับประทานเนื้อแดงและเนื้อแปรรูปอยู่บ้าง โดยเฉพาะตอนก่อน 30 และเพิ่งจะมาจริงจังดูแลการกินมากขึ้นตอนอายุหลัง 30 ซึ่งก็จัดว่าสายไปหน่อย
- มลพิษทางอากาศคือตัวเร่งแก่ที่เราจับต้องไม่ได้ และมักเผลอมองข้ามไป เรารับรู้กันดีว่ามลพิษทางอากาศก่อให้เกิดปัญหาของระบบทางเดินหายใจ แต่อาจหลงลืมไปว่า มลพิษทางอากาศทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายแก่ลง โดยมลพิษทางอากาศที่เรารับมานั้น มีทั้งจากภายนอกบ้าน เช่น ควันไอเสียรถยนต์ ควันบุหรี่ และจากในบ้านเราเอง เช่น สารระเหยต่างๆจากเฟอร์นิเจอร์หรือสีทาบ้าน หมอเองเพิ่งให้ความสำคัญกับการตรวจวัดคุณภาพอากาศในบ้าน ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ และปลูกต้นไปภายในบ้าน ถ้าย้อนกลับไปสอนตัวเองได้ จะสอนให้เริ่มทำสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ
- เข้าใจในความไม่แน่นอนของชีวิต หนึ่งในข้อดีของการแก่ขึ้นคือ มองเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็กลงได้ เพราะการเจอปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิตซ้ำๆหลายสิบปี ส่งผลให้เราเรียนรู้และตระหนักว่า สุดท้ายแล้วทุกปัญหามันจะผ่านพ้นไป ด้วยการแก้ปัญหาของเราเอง ด้วยเงื่อนเวลา หรือด้วยวิถีการคลี่คลายบางอย่างที่เราคาดเดาไม่ได้ ก่อนวัย 30 เรามักจะเครียดง่ายกับปัญหาต่างๆ ซึ่งความเครียดเรื้อรังส่งผลเร่งกระบวนการแก่ในร่างกายอย่างไม่รู้ตัว เมื่อปัญหาผ่านพ้นไป ความเครียดลดลงกลับสู่ภาวะปกติ แต่การแก่ในร่างกายที่เกิดขึ้นไปแล้วไม่อาจย้อนกลับคืนได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปเครียดอะไรให้มากนักเลย สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไป
นอกจากนี้คุณหมอผิงยังฝากเอาไว้เพิ่มเติมด้วยว่า "การดูแลสุขภาพให้ดี มีตัวละครหลักอีกสองตัวที่น่าสนใจ คนแรกคือคุณวินัย ที่เข้าฉากเมื่อไร หลายสิ่งหลายอย่างที่ดูจะยากในการปฏิบัติก็กลับง่ายขึ้น ยิ่งคุณวินัยมีบทบาทมากเท่าใด การดูแลสุขภาพก็ยิ่งทำง่ายขึ้นเท่านั้น ในทางตรงข้าม ตัวละครอีกหนึ่งคือ คุณประมาท ถ้าเราเรียกเค้ามาเข้าฉากเมื่อใด การดูแลสุขภาพก็จะกลับกลายเป็นเรื่องไกลตัว และลูกน้องของคุณประมาทอย่าง เจ้า(ข้อ)อ้าง และเจ้า(วัน)อื่นก็จะพร้อมทำงานขัดขวางคุณวินัยในทันที"