6 สัญญาณอันตราย คุณมี "พยาธิในช่องคลอด" หรือไม่?

6 สัญญาณอันตราย คุณมี "พยาธิในช่องคลอด" หรือไม่?

6 สัญญาณอันตราย คุณมี "พยาธิในช่องคลอด" หรือไม่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พยาธิในช่องคลอด เป็นอีกหนึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยส่วนใหญ่มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตกขาว ช่องคลอดมีกลิ่น รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ หากปล่อยเนิ่นนานไม่รีบรับการรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ สัญญาณเตือนพยาธิในช่องคลอด ที่คุณควรรู้ ให้มากขึ้นกันค่ะ


พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis) โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

พยาธิในช่องคลอด (Trichomoniasis)  เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการตกขาวเยอะกว่าผิดปกติ  ช่องคลอดมีกลิ่น รู้สึกคันที่อวัยวะเพศ และรู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามพยาธิในช่องคลอดมักพบได้บ่อยในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะคลอดลูกก่อนกำหนด


6 สัญญาณเตือนพยาธิในช่องคลอดที่คุณควรรู้

ประมาณ 70% ของคนที่เป็นพยาธิในช่องคลอด จะไม่มีอาการแสดงใด ๆ ในตอนแรก ให้คุณสังเกตตนเอง หากมีอาการดังต่อไปนี้ แสดงว่าเข้าข่ายต่อการเป็นพยาธิในช่องคลอด

  1. ตกขาวเยอะผิดปกติ มีกลิ่นเหม็น
  2. ตกขาวมีสีเทาเหลือง หรือเขียว
  3. รู้สึกคันที่อวัยวะเพศ
  4. รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  5. เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
  6. ปัสสาวะบ่อยขึ้น


ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นพยาธิในช่องคลอดได้

สาเหตุของพยาธิในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวซึ่งเป็นปรสิตชนิดเล็ก ๆ แพร่เชื้อติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ (ไม่ทราบระยะฟักตัวระหว่างการติดเชื้อ แต่คาดว่าเชื้อจะฟักตัวตั้งแต่ 4 ถึง 28 วัน) โดยส่วนใหญ่มักพบในเพศหญิงที่มีอายุระหว่าง 14-49 ปี ติดเชื้อในช่องคลอด ปากมดลูกหรือท่อปัสสาวะ รวมถึงผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้

  • มีคู่นอนหลายคน
  • มีประวัติติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • มีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย


วิธีการรักษาพยาธิในช่องคลอด

พยาธิในช่องคลอดสามารถรักษาให้หายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แพทย์อาจแนะนำ ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) หรือยาทินิดาโซล (Tinidazole)

หมายเหตุ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังจากรับประทานยาเมโทรนิดาโซลในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หรือหลังจากรับประทานยาทินิดาโซลในช่วง 72 ชั่วโมงแรก


ลดความเสี่ยงต่อการเกิดพยาธิในช่องคลอด ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เราสามารถลดความเสี่ยงต่อการพยาธิในช่องคลอด  โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังต่อไปนี้

  1. สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  2. หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
  3. หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
  4. สอบถามประวัติความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ที่เรามีเพศสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมา จะช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook