“เพียงใครสักคนที่ทำให้เราวางใจได้” ข้อคิดดีๆ จากซีรีส์ “Go Ahead ถักทอรักที่ปลายฝัน”

“เพียงใครสักคนที่ทำให้เราวางใจได้” ข้อคิดดีๆ จากซีรีส์ “Go Ahead ถักทอรักที่ปลายฝัน”

“เพียงใครสักคนที่ทำให้เราวางใจได้” ข้อคิดดีๆ จากซีรีส์ “Go Ahead ถักทอรักที่ปลายฝัน”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เด็กในวันนี้ คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” คำพูดนี้เป็นสัจธรรมอย่างแท้จริง หากเด็กได้รับการอบรมสั่งสอน เลี้ยงดูด้วยความรัก ความอบอุ่นอย่างเต็มที่ เด็กในวันนี้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง รวมถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่างๆ ที่ดีตามไปด้วย

ช่วงนี้กระแสซีรีส์จีนเรื่อง Go Ahead: ถักทอรักที่ปลายฝัน กำลังมาแรง เพราะสามารถถ่ายทอดปัญหาในครอบครัวออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน และอาจพบเห็นได้ในชีวิตจริงของใครหลายๆ คน หมอมิน-พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา เขียนรีวิวและวิเคราะห์ถึงตัวละครในซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เราคิดได้ว่า สำหรับเด็กแล้ว ถ้ามีผู้ใหญ่ที่พร้อมที่จะเข้าใจ และช่วยเหลือเราจริงๆ เขาก็ก้าวข้ามผ่านปัญหา และอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตไปได้ จนถึงวันที่เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่และแข็งแรงมากพอที่จะก้าวต่อไปได้ด้วยตัวเอง 

(เนื้อหาในบทความนี้เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญของซีรีส์)


หลังจากภรรยาเสียชีวิตไปราวปีกว่าๆ “หลี่ไหเฉา” ก็อาศัยอยู่ลำพังกับ “เจียนเจียน” ลูกสาววัย 6 ขวบ โดยเปิดร้านขายบะหมี่เล็กๆ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวที่เหลือกันอยู่เพียงสองคนพ่อลูก 

ภรรยาของเขาเสียชีวิตไปขณะที่ตั้งท้องลูกคนที่สอง เพราะภาวะบางอย่างที่หมอบอกแล้วว่าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตถ้าเธอตั้งท้องต่อไป แต่ภรรยาของเขาก็ดึงดันที่จะตั้งท้องต่อ หลี่ไหเฉาเองก็ยอมตามภรรยา จนในที่สุดมันก็สายเกินไป 

แม้จะรู้สึกผิดและเสียใจกับการจากไปของภรรยาสักแค่ไหน แต่หลี่ไหเฉาก็ไม่ได้ทำให้อารมณ์ความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองสร้างผลกระทบกับลูกสาว 

เมื่อเจียนเจียนบ่นคิดถึงแม่ เขาก็จะบอกลูกว่าแม่กลายไปเป็นเทพธิดาอยู่บนฟ้าที่ไกลมากๆ ตอนนี้ไม่ได้เจอกัน แต่สักวันหนึ่งพวกเราก็จะไปอยู่ที่นั่นและได้พบกันพร้อมหน้าอีก 

หลี่ไหเฉาดูแลลูกสาวอย่างดี พยายามเป็นทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียวกัน เจียนเจียนจึงเติบโตเป็นเด็กหญิงที่มองโลกในแง่ดี กล้าหาญ ร่าเริงแจ่มใส และมีความสุขอยู่เสมอ 

วันหนึ่งโลกใบเล็กของหลี่ไหเฉาและลูกสาว ก็มี "จื่อชิว” และ "หลิงเซียว” เด็กชายที่อายุมากกว่าเจียนเจียนไม่กี่ปีก้าวเข้ามา ทำให้ชีวิตของพวกเขาเปลี่ยนไป โลกใบเล็กของพวกเขาก็ขยายกว้างขึ้น


เริ่มจากที่หลี่ไหเฉารู้จักกับแม่ของจื่อชิว เธอเป็นหญิงสาวที่เลิกกับสามี พ่อแท้ๆ ของจื่อชิว ซึ่งไม่เคยได้มีส่วนร่วมในการช่วยเลี้ยงดูลูกชายเลย หลี่ไหเฉาสงสารที่เธอลำบากเลี้ยงดูลูกมาตัวคนเดียว จึงช่วยเหลือเธอหลายๆ อย่าง 

วันนั้นเธอมาขอร้องให้หลี่ไห่เฉาช่วยดูแลลูกชายให้ชั่วคราว เพราะเธอต้องกลับบ้านเกิดไปหาแม่ที่กำลังป่วยหนัก และขอยืมเงินเขาไปก้อนหนึ่งด้วย 

เวลาผ่านไปหลี่ไหเฉารอแล้วรอเล่า แม่ของจื่อชิวก็ไม่เคยได้กลับมารับลูกชาย หลี่ไหเฉาจึงเลี้ยงดูจื่อชิวในฐานะลูกชายอีกคนนับจากนั้นเป็นต้นมา


ในช่วงเวลานั้น "หลิงเหอผิง” นายตำรวจที่ยศไม่สูงนัก เขาย้ายมาประจำการที่สถานีตำรวจในเมืองที่หลี่ไหเฉาอาศัยอยู่ ครอบครัวของหลิงเหอผิง ซึ่งประกอบด้วยภรรยาและหลิงเซียว ลูกชายคนเดียว ก็ย้ายบ้านตามมาด้วย 

พวกเขามาอาศัยอยู่บนห้องที่อยู่ชั้นบนเหนือไปจากห้องของหลี่ไหเฉา หลังจากนั้นหลี่ไหเฉาก็ได้ยินเสียงทะเลาะเบาะแว้งที่ดังลงมาถึงในห้องของเขาเกือบทุกวัน มันเป็นเสียงตะโกนใส่กันระหว่างสามีภรรยา บางทีก็มีเสียงข้าวของแตก 

หลี่ไหเฉารู้สึกไม่สบายใจ เขาเป็นห่วงเด็กอย่างหลิงเซียว ลูกชายของครอบครัวหลิง เด็กตัวแค่นั้นจะเป็นอย่างไร หากต้องตกอยู่ในบรรยากาศของพ่อแม่ที่ทะเลาะกันรุนแรงเช่นนี้เสมอ 

เขาพบว่าหลิงเซียวมักหลบออกมานั่งตรงขั้นบันไดระหว่างชั้น แถวหน้าห้องเขาบ่อยๆ เด็กชายนั่งหน้าเฉย อ่านหนังสือการ์ตูนที่อยู่ในมือ ขณะที่เสียงทะเลาะของพ่อแม่ดังออกมาไม่ขาดสาย 

หลิงเซียวนั้นมีนิสัยที่แตกต่างกับเจียนเจียนอย่างตรงกันข้าม เด็กชายไม่ร่าเริง ค่อนข้างเงียบขรึม ไม่ค่อยพูด ไม่ยิ้มแย้ม ไม่สนใจใคร เก็บความรู้สึกตลอดเวลา 

แม้เจียนเจียนและหลี่ไหเฉาจะพยายามชวนเด็กชายเข้ามาทานข้าวในห้อง เพราะรู้ว่าหลิงเซียวไม่ค่อยได้ทานข้าวตามปกติ จากที่พ่อแม่มัวแต่ทะเลาะกัน แต่เด็กชายก็ปฏิเสธทุกครั้ง 

และแล้วหลี่ไหเฉาก็บังเอิญได้ไปรู้เรื่องราวเบื้องหลังของครอบครัวหลิงเข้า เหตุผลที่อธิบายได้ว่า เพราะอะไรสามีภรรยาจึงทะเลาะกันเสมอ และเด็กชายหลิงเซียวจึงดูไม่มีความสุขขนาดนั้น เขาพบว่าเรื่องร้ายๆ ที่เขาสูญเสียภรรยาอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย เมื่อเทียบกับเรื่องของครอบครัวหลิง

ก่อนย้ายบ้านมานั้น หลิงเหอผิงทำงานเป็นตำรวจที่อุทิศตัวเองเพื่องานอยู่ตลอด จนไม่ค่อยได้มีเวลาให้ครอบครัว ส่วนภรรยาก็เป็นแม่บ้าน มีลูกสองคนคือ หลิงเซียวและน้องสาว หลิงเหอผิงไม่ค่อยอยู่บ้าน และทิ้งให้ภรรยาดูแลลูกสองคนเสมอ 

มีวันหนึ่งที่ภรรยาของเขาออกไปซื้อของที่ตลาดและล็อกกุญแจใส่กลอนจากข้างนอกบ้าน ให้หลิงเซียวดูแลน้องสาวตามลำพัง มันเป็นแบบนี้ตลอดจนเธอไว้วางใจเพราะรู้สึกว่าลูกชายสามารถทำหน้าที่นี้ได้ดี 

เรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น หลิงเซียวป้อนวอลนัตให้น้องสาวทานเหมือนทุกครั้ง แต่บังเอิญวอลนัตลูกนั้นเข้าไปติดคอน้องสาว ทำให้ขาดอากาศหายใจ 

น้องสาวหมดสติไปต่อหน้าต่อตาพี่ชาย หลิงเซียวพยายามอย่างหนักที่จะช่วยน้องสาว แต่เด็กก็คือเด็ก เขาทำอะไรไม่ได้มากนัก เขาเปิดประตูไม่ได้เพราะติดกลอนที่แม่ล็อคไว้ พยายามตะโกนสุดเสียงเพื่อให้คนช่วย แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน 

จนกระทั่งแม่กลับมาพร้อมกับพบว่าลูกสาวไม่หายใจแล้ว แม่เฝ้าโทษตัวเองตลอดมา และยังโทษสามีว่าเป็นต้นเหตุที่ไม่เคยใส่ใจครอบครัว แต่นอกจากพ่อแม่ เด็กชายหลิงเซียวที่สูญเสียน้องสาวก็เจ็บปวดจากบาดแผลลึกในใจจากความสูญเสียน้องสาวไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน 

เรื่องราวนี้เองที่เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวหลิงต้องย้ายบ้านออกมาให้พ้นจากสิ่งแวดล้อมและความทรงจำเดิมๆ และกลายมาเป็นเพื่อนบ้านของหลี่ไหเฉา 

การทะเลาะกันของสามีภรรยาหลิงก็มาถึงจุดแตกหัก เมื่อภรรยาของหลิงเหอผิงขนข้าวของออกไป เดินออกจากบ้าน โดยไม่สนใจลูกชายร้องหาแม่ เธอทนไม่ไหวอีกต่อไปที่จะเห็นหน้าสามีและลูกชายซึ่งย้ำเตือนให้เธอคิดถึงลูกสาวที่จากไป และเธอก็เคยไม่กลับมาอีก 

หลี่ไหเฉาจึงเข้ามาช่วยเหลือหลิงเหอผิงและลูกชาย ด้วยการเสนอตัวเข้ามาช่วยดูแลหลิงเซียว และบอกให้หลิงเหอผิงให้ลูกชายมาทานข้าวที่บ้านเขาได้ทุกเมื่อ เขาจะทำกับข้าวให้หลิงเซียวทานเอง


หลังจากนั้น หลี่ไหเฉาก็กลายเป็น “พ่อหลี่” ของ หลิงเซียว จื่อชิว และเจียนเจียน เขาเป็นทั้งพ่อและแม่ของเด็กสามคนนี้ในวันที่พวกเขาขาดแม่ 

ส่วนหลิงเหอผิงก็กลายเป็น “พ่อหลิง” ที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูกเหมือนเดิม เพราะการทำงานเป็นตำรวจที่งานยุ่งเสมอ แต่พวกเขาทั้งคู่ก็ช่วยกันเลี้ยงดูเด็กๆ สามคนเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ของเขาเอง 

หลิงเซียว กลายเป็นพี่ชายคนโต - จื่อชิว เป็นพี่ชายคนรอง - เจียนเจียน เป็นน้องสาวคนเล็ก


เรื่องที่หมอเล่ามาเป็นเรื่องราวในซีรีส์จีนแผ่นดินใหญ่ เรื่อง Go Ahead ที่หมอได้ดูไปราว 10 ตอนแล้ว รู้สึกประทับใจ อบอุ่นจึงอยากจะแบ่งปันข้อคิดที่ได้ 

โดยทั่วไปในชีวิตมนุษย์นั้น เรามักคิดว่าชีวิตวัยเด็กเป็นชีวิตที่ควรจะเป็นปกติสุขที่สุด เด็กมักไม่พบปัญหาแบบผู้ใหญ่ และเวลามีปัญหา ผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดก็จะเป็นคนที่ช่วยเหลือประคับประคองให้ผ่านพ้นไปได้ 

แต่เด็กๆ ในเรื่องไม่ได้เป็นเช่นนั้น เด็กทั้งสามเติบโตมากับเรื่องราวที่เป็นแผลลึกในใจจากความสูญเสีย และที่แย่ยิ่งกว่าคือ พ่อแม่ของเด็กๆ อย่างหลิงเซียวและจื่อชิว ที่ควรเป็นคนที่ดูแลและเยียวยาใจลูกไม่ได้ทำหน้าที่นั้นในเวลาที่ลูกๆ ต้องการอย่างที่สุด 

ไม่เพียงแต่เด็กที่เจ็บปวด แต่ผู้ใหญ่อย่างหลีไหเฉาและหลิงเหอผิงต่างก็มีบาดแผลในใจจากเรื่องราวที่ผ่านมาในอดีตเช่นกัน 

ความยากของการที่เป็นผู้ใหญ่อย่างหนึ่งก็คือ ในวันที่เจ็บปวด ผู้ใหญ่ต้องกลับมาเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งของเด็กๆ ให้ได้ก่อน 

ในวันที่เราเจ็บปวด หากมีสติเพียงพอ มองไปรอบตัว เราก็อาจมองเห็นคนอื่นๆ ที่บาดเจ็บไม่แพ้เรา การทำสิ่งดีๆ ให้คนที่ต้องการ ตรงนั้นก็อาจช่วยให้เราเจ็บปวดน้อยลง และก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ถึงเวลานั้น เราจะสามารถช่วยกันให้กำลังใจและปลอบโยนกันและกันได้ เหมือนหลี่ไหเฉาที่ช่วยให้คนอื่นๆ ดีขึ้น เขาเองก็ดีขึ้นด้วย 

ในเรื่องร้ายๆ ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่ เพราะผู้ใหญ่ โดยเฉพาะหลี่ไหเฉา เข้ามาเป็นที่พึ่งพิงทางกายและใจของเด็กๆ เหล่านี้ในเวลาที่ต้องการ

หมอประทับใจคำพูดหนึ่งที่หลี่ไหเฉาพูดกับจื่อชิว เด็กชายที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ในวันที่จื่อชิวกำลังมีปัญหาหนักใจ

"จื่อชิว... เรื่องราวบนโลกใบนี้ก็ไม่แน่ไม่นอนหรอก บางทีแกอาจจะได้เจอเรื่องดีๆ หรืออาจเจอเรื่องไม่ดี แต่เรื่องร้ายๆ ก็ไม่แน่ อาจจะกลายเป็นเรื่องดีก็ได้ และไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม แกวางใจได้ แกมีพ่ออยู่" 

เด็กอย่างหลิงเซียว จื่อชิว หรือ เจียนเจียน แม้ชีวิตที่ผ่านมาจากเลวร้ายอย่างไร แต่ก็มี หลี่ไหเฉา ผู้ใหญ่ที่เป็นเหมือนที่พึ่งทางกายและใจ อยู่ตรงนั้นเพื่อพวกเขา ทำให้พวกเขาวางใจได้

เรื่องราวในซีรีส์ช่างเข้ากับชื่อเรื่อง Go Ahead ที่หมายความว่า “ก้าวต่อไปข้างหน้า”

ในวันที่มีปัญหาและอุปสรรค อะไรก็คงไม่ย่ำแย่นัก หากเรามีใครสักคนที่อยู่ตรงนั้นเพื่อเราและเราวางใจในตัวเขาได้ และสำหรับเด็กคนหนึ่งที่กายและใจยังไม่พร้อมเพียงพอ ผู้ใหญ่สักคนที่เป็นที่พึ่งพิง ดูแลช่วยเหลือ มีความสำคัญอย่างยิ่ง จนกระทั่งในวันที่เขาจะแข็งแรงพอที่จะก้าวต่อไปด้วยตัวเอง

อัลบั้มภาพ 78 ภาพ

อัลบั้มภาพ 78 ภาพ ของ “เพียงใครสักคนที่ทำให้เราวางใจได้” ข้อคิดดีๆ จากซีรีส์ “Go Ahead ถักทอรักที่ปลายฝัน”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook