ผลข้างเคียงของ “วัคซีนมะเร็งปากมดลูก” ที่อาจเกิดขึ้นได้
ประเด็นเรื่อง “วัคซีนมะเร็งปากมดลูก” ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นสาเหตุเสียชีวิตของเด็กได้หรือไม่ เฟซบุ๊กเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ให้ข้อมูลถึง “ผลข้างเคียง” ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ดังนี้
วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV : Human papillomavirus ) สามารถป้องกันไวรัสชื่อ แปปิลโลมา ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิด หูดหงอนไก่ หรือ มะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตในไทยค่อนข้างสูง ปัจจุบันในประเทศไทยรัฐบาลจัดฉีดให้เด็กผู้หญิงฟรี โดยอายุที่เหมาะสมคือ 9-26 ปี และจะฉีด 3 เข็ม ตอน 0,1-2 และ 6 เดือน (ในอดีต ต้องจ่ายเงินเองเข็มละเกือบ 2000-3000 บาท)
ในปัจจุบันไทย เด็กผู้หญิง ป.5 จะได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี จำนวน 2 เข็มตอน 0 และ 6 เดือน ภูมิคุ้มกันขึ้นดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพจริง
ผลข้างเคียงจากการได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีน อาจมีอาการเจ็บป่วยที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยอาจเกิดขึ้นภายใน 4 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับวัคซีน เรียกว่า AEFI (Adverse Event Following Immunization)
อาการที่อาจเกิดขึ้นได้หลังฉีดวัคซีน เช่น
- มีอาการแพ้ มีผื่น หอบเหนื่อย
- มีไข้
- บวมแดง
- ชัก
- เสียชีวิต
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติหลังได้รับวัคซีน
- แพ้วัคซีนจริง (Vaccine reaction) เช่น มีผื่น ช็อก หรือชัก
- บริหารจัดการกับวัคซีนต่อผู้ได้รับวัคซีนไม่ดีพอ (Program Error) เช่น วัคซีนหมดอายุ ฉีดผิดที่ ผิดตำแหน่ง และชนิด
- ความกลัวและกังวลของผู้ที่ได้รับวัคซีน เช่น เป็นลม (Injection Reaction)
- เจ็บป่วยจากสาเหตุของโรค อื่นแล้วพบร่วมพอดี (co-incidence)
- ไม่ทราบสาเหตุ
วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ปลอดภัยแค่ไหน?
ปกติวัคซีนมะเร็งปากมดลูกมีความปลอดภัย ใช้ฉีดในประชาชนประเทศอเมริกา และประเทศต่างๆ มากกว่า 100 ล้านโด๊ส แม้ว่าอาจจะพบผลข้างเคียงในบางรายได้ เช่น เป็นลม ปวดบวมแดง แต่อาการมักไม่รุนแรง ในส่วนของอาการรุนแรง เช่น เสียชีวิต ในประเทศไทย ยังไม่พบรายงาน
เราเสี่ยงแพ้วัคซีนมากน้อยแค่ไหน?
ในทุกยา ทุกวัคซีน มีประโยชน์และมีผลข้างเคียงได้ทุกตัว ปกติแล้วเมื่อได้รับวัคซีน จะต้องสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาที เพื่อป้องกันและ/หรือรีบรักษาโดยเร็วที่สุด