"ดื่มนม" ทำให้เกิด "สิว" หรือไม่?
ไม่รู้ว่ามีใครเคยสังเกตตัวเองตอนที่เป็นสิวหรือไม่ว่าสิวที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นมันเกิดขึ้นจากอะไร เพราะล้างหน้าไม่สะอาด? เพราะกำลังจะเป็นประจำเดือน? เพราะเครื่องสำอาง? เพราะเครียด? หรือว่าเพราะอาหาร?
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งออกมาแชร์วิธีการกำจัดสิวให้หายไป ผู้ใช้รายนั้นระบุว่า การดื่มนมและกินผลิตภัณฑ์จากนม มีส่วนทำให้เกิดสิว ซึ่งถ้าหากงดดื่มนมหรืองดกินอาหารที่ได้จากนม จะช่วยให้สิวหายได้ นั่นทำให้หลายคนอาจสงสัยว่า “การดื่มนม” เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ “เกิดสิว” ได้จริงเหรอ?
ถ้าถามว่านม “มีส่วน” ทำให้เกิดสิวไหม ตอบได้ว่า “มี” แต่ถ้าถามว่าชัวร์แค่ไหน “ยังไม่มีงานวิจัยระบุอย่างแน่ชัด” แต่มีการศึกษาตัวหนึ่งที่ระบุว่าการดื่มนมหรือบริโภคอาหารที่ทำจากนม สามารถก่อให้เกิดสิ่งที่ไม่มีใครปรารถนาอย่าง “สิว” ได้ เป็นเพราะอะไรกัน?
เรื่องของสิว
สิว เป็นที่คุ้นเคยดีของคนแทบทุกคน เพราะทุกคนล้วนผ่านช่วงเวลาในการเป็นหนุ่มสาวมาก่อน แต่จะเป็นมากหรือเป็นน้อยอันนั้นก็แล้วแต่คน เนื่องจากสิ่งที่เป็นตัวแปรที่ทำให้เกิดสิวในช่วงวัยเจริญพันธุ์ก็คือ “ฮอร์โมน” โดยเฉพาะ “โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone)” เนื่องจากวัยรุ่น เป็นวัยที่เปลี่ยนผ่านจากเด็กที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ในช่วงวัยนี้จึงเป็นช่วงที่โกรทฮอร์โมนมีระดับสูงที่สุด ขณะเดียวกันระดับฮอร์โมนก็ผกผันอยู่เสมอ
โกรทฮอร์โมน เป็นฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมอง ซึ่งหน้าที่สำคัญของโกรทฮอร์โมนก็ตามชื่อ คือ เป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย ทั้งส่วนสูง กล้ามเนื้อ มวลกระดูก ให้วันรุ่นเติบโตได้สมวัย นอกจากนี้ โกรทฮอร์โมนยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญในร่างกายด้วย เพราะมีโครงสร้างทางเคมีใกล้เคียงกับอินซูลิน จึงมีความสามารถในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
โกรทฮอร์โมนที่ว่านี้มีผลต่อต่อมไขมันใต้ผิวหนัง หากร่างกายมีระดับฮอร์โมนสูง ทำให้ต่อมไขมันถูกกระตุ้นและสร้างไขมันออกมามากขึ้น มากจนทำให้รูขุมขนเกิดอุดตัน ซึ่งการอุดตันที่เกิดขึ้นนี้ทำให้แบคทีเรีย P.acne (แบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว) เจริญเติบโตได้ดีและเข้าไปย่อยสลายไขมัน เม็ดเลือดขาวที่มีหน้าที่ในการจัดการกับสิ่งแปลกปลอม (แบคทีเรีย P.acne) จึงมารวมกันบริเวณนั้น ก่อให้เกิดการอักเสบจนกลายเป็นสิวนั่นเอง
แล้วการกินอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์จากนมทำให้เกิดสิวได้อย่างไร?
แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีหลักฐานบ่งชี้ที่แน่ชัดว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์นมทำให้เกิดสิว “ทางตรง” แต่ “ทางอ้อม” นมมีส่วนทำให้สิวเกิดการอักเสบรุนแรงขึ้น
การศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2018 ได้ทดสอบสมมติฐานว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์นมส่งผลต่อการเกิดสิวหรือไม่ โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 78,529 คน คละกันทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ ซึ่งผลที่ได้จากการศึกษานี้พบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคนมกับการเกิดสิว
เป็นที่รู้กันดีว่านมเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะ “โปรตีน” ซึ่งโปรตีนหลักในนมคือโปรตีนที่เรียกว่าเวย์ (whey) และเคซีน (casein) นอกจากนี้ยังมีโกรทฮอร์โมนตามธรรมชาติด้วย เวย์จะเพิ่มระดับอินซูลีนในเลือด ขณะเดียวกันเคซีนก็เพิ่มโกรทฮอร์โมน โปรตีนเหล่านี้จึงเป็นตัวแปรสำคัญที่อาจกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ดังนั้นเมื่อวิเคราะห์จากความเชื่อมโยงนี้จะเห็นว่าโปรตีนที่อยู่ในนมมีผลทำให้เกิดสิวมากกว่าปริมาณไขมันในนมเสียอีก
อีกทั้งโกรทฮอร์โมนนั้นใกล้เคียงกับอินซูลิน จากการศึกษายังพบอีกว่า คนวัยผู้ใหญ่ที่ดื่มนม 3 มื้อต่อวัน ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 12 สัปดาห์ ร่างกายมีระดับโกรทฮอร์โมนสูงกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มนมประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในเด็กอายุราว ๆ 10-12 ปี ที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น การดื่มนมจะทำให้โกรทฮอร์โมนในเลือดเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 9-20 เปอร์เซ็นต์
การศึกษานี้ ทดสอบด้วยผลิตภัณฑ์นมทุกประเภท ทั้งนมสด โยเกิร์ต ชีส โดยเลือกทำการวิเคราะห์ทั้งผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันปกติและไขมันต่ำ สิ่งที่ได้จากการศึกษาคือ ผลิตภัณฑ์นมทุกประเภทมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิวในกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ 7-30 ปี และมีแนวโน้มจะเกิดสิวกับผู้ที่บริโภคนมไขมันต่ำมากกว่านมไขมันปกติ ดังนั้น ผู้ที่ดื่มนมไขมันต่ำหรือนมพร่องมันเนย มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้ง่ายกว่าผู้ที่ดื่มนมธรรมดา ทั้งนี้อาจมาจากปัจจัยที่ว่าผู้คนมักจะเลือกบริโภคนมที่มีไขมันต่ำมากกว่า
และยังพบด้วยว่าผู้ที่ดื่มนมทุกวัน วันละ 1 แก้ว (หรือมากกว่านั้น) มีโอกาสที่จะเกิดสิวมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ดื่มนมทุกวันหรือดื่มประมาณสัปดาห์ละ 2-3 แก้วเท่านั้น และในคนที่เป็นสิวเรื้อรัง จะมีระดับโกรทฮอร์โมนมากกว่าคนที่ไม่ค่อยมีสิว จากสิ่งนี้สามารถหาความสัมพันธ์ระหว่างระดับโกรทฮอร์โมนและความรุนแรงของสิวได้ โดยพบมากในผู้หญิงที่เป็นวัยผู้ใหญ่
การหลีกเลี่ยงการบริโภคผลิตภัณฑ์นมช่วยลดสิวได้จริงหรือ?
จากการศึกษาข้างต้นจึงสรุปได้คร่าว ๆ ว่า ผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมมีแนวโน้มจะเป็นสิวได้มากกว่าผู้ที่ไม่ค่อยบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย โดยเฉพาะปัจจัยด้านร่างกาย ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน รวมถึงสภาพแวดล้อม ถึงกระนั้น งานวิจัยนี้เก็บข้อมูลจากชาวตะวันตก ซึ่งอาหารตะวันตกนั้นมักมีส่วนประกอบของนมและอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง จึงเป็นสมมติฐานให้นักวิจัยหาความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคนมกับการเกิดสิว
และเนื่องมาจากหลักฐานบางอย่างที่ชี้ว่าโปรตีนในนมมีส่วนกระตุ้นให้เกิดสิว ฉะนั้น จึงอนุมานไปว่าการลดหรืองดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมก็น่าจะลดการเกิดสิวได้ อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ให้ผลกระจ่างชัด นี่จึงเป็นเพียงข้อสันนิษฐานที่มีมูลและมีแนวโน้มจะเป็นไปได้
ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาสิว ก็แนะนำให้ลดปริมาณการบริโภคอาหารที่ทำจากนมทั้งหลาย เช่น นม เนย โยเกิร์ต บัตเตอร์มิลค์ ครีมนม ชีส และไอศกรีมดูก่อนเพื่อสังเกตผลที่ได้รับ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ทำจากนม เช่น นมถั่วเหลือง (ไม่หวาน) นมอัลมอนด์ น้ำนมข้าว แทน
นั่นแปลว่าใครก็ตามที่คิดว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมทำให้เกิดสิว หรือทำให้สิวที่เป็นอยู่แย่ลง ก็สามารถทดสอบสมมติฐานนี้ได้ด้วยตนเอง ด้วยการลองลดหรืองดการบริโภคนม หากผลที่ได้คือสิวลดลง หรือความรุนแรงน้อยลง ก็เป็นเรื่องน่ายินดี และไม่ใช่เรื่องที่อันตรายอะไรหากจะลดการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนม เนื่องจากยังสามารถรับโปรตีนจากแหล่งอาหารอื่นได้ เช่นเดียวกับผู้ที่แพ้นมวัว
ทั้งนี้ทั้งนั้น การเกิดสิวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริโภคผลิตภัณฑ์จากนมเสมอไป แต่คุณควรทดสอบการกินอาหารของตัวเองดูอย่างหลากหลาย ว่าอาหารประเภทไหนที่มีผลต่อการเกิดสิว หากไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังถึงสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณเป็นสิว เพราะสิวที่เกิดขึ้นของคุณอาจจะไม่ได้มีปฏิกิริยามาจากการดื่มนมก็ได้