“ชาไข่มุก” อุดตันลำไส้ได้ จริงหรือ?
“ไข่มุก” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงอัญมณี หรือ pearl แต่เราหมายถึงเม็ดแป้งหนึบหนับสีดำที่ใส่อยู่ในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะชานมไข่มุก ที่เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทยหลายคน
แต่ในอดีตมีข่าวลือว่า มีคนที่พบเจ้าไข่มุกเม็ดๆ นี้ติดค้างอยู่ในร่างกาย บ้างก็บอกว่าไข่มุกเข้าไปอุดตันในลำไส้ ข้อเท็จจริงนี้เป็นอย่างไร Sanook Health มีข้อมูลจาก อ. นพ.นรินทร์ อจละนันท์ สาขาวิชาโรคทางเดินอาหารและตับ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่ระบุเอาไว้ใน นิตยสารวาไรตี้เพื่อสุขภาพ @Rama มาให้ได้อ่านกัน
“ชาไข่มุก” อุดตันลำไส้ได้ จริงหรือ?
ก่อนอื่นมาดูส่วนประกอบของ “ไข่มุก” กันก่อน ไข่มุกมีส่วนประกอบมาจากแป้งมันสำปะหลัง เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้ว จะย่อยสลายตั้งแต่ลำไส้เล็ก จึงทำให้ไม่เห็นลักษณะของเม็ดไข่มุกในระบบลำไส้ใหญ่ ดังนั้นการพบเห็นไข่มุกติดค้างในลำไส้ผ่านภาพเอกซ์เรย์ จึงไม่น่าจะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม ไข่มุกแม้จะไม่ได้ทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ในคนทั่วไปได้ แต่ถ้าผู้ที่รับประทานมีโรคที่ลำไส้มีความผิดปกติอยู่ เช่น ลำไส้เล็กตีบ จากเพราะพังผืด จากก้อน หรือจากแผลบางอย่างที่กดลำไส้ ก็อาจมีความเป็นไปได้ที่จะพบไข่มุกติดค้างในลำไส้ได้
แต่โดยทั่วไป แป้งมันสำปะหลังของไข่มุก ไม่สามารถทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้ได้ เว้นแต่จะเป็น “ไข่มุกปลอม” ที่ไม่ได้ทำมาจากแป้ง อาจมีส่วนผสมที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ก็อาจเกิดอันตรายจนทำให้อุดตันลำไส้ได้
กิน “ไข่มุก” อย่างไรให้ปลอดภัย
Sanook Health แนะนำว่า ควรเคี้ยวไข่มุกให้ละเอียดก่อนกลืน ใช้หลอดที่มีขนาดใหญ่กว่าเม็ดไข่มุก จะทำให้ไม่ต้องใช้แรงดูดไข่มุกจากแก้วเครื่องดื่มมากเกินไปจนทำให้เสี่ยงเม็ดไข่มุกพลัดเข้าคอโดยไม่ทันได้เคี้ยวก่อนได้
นอกจากนี้ ไม่ควรกินไข่มุกในปริมาณมากเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักแล้ว ที่หลายคนกลัวมากกว่าน่าจะเป็นเรื่องของ “น้ำหนัก” ที่อาจพุ่งขึ้นพรวดๆ ได้เช่นกัน