วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า VS วิ่งกลางแจ้ง ออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน?

วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า VS วิ่งกลางแจ้ง ออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน?

วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า VS วิ่งกลางแจ้ง ออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงแม้คุณจะรักในการออกกำลังกายอย่างการวิ่งมากแค่ไหน แต่เมื่อใดก็ตามพบว่าสภาพอากาศไม่เป็นไปดั่งใจหวัง ทั้งแดดจัด ฝนตก และฝุ่นควัน มลภาวะมากมาย คงต้องเป็นท้อแน่นอน และถ้าหากคุณกำลังคิดหาทางแก้ไขด้วยการซื้อลู่วิ่งไฟฟ้าอยู่ล่ะก็ ลองอ่านบทความของ Hello คุณหมอ นี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจกันก่อนได้เลย

ลู่วิ่งไฟฟ้า ส่งผลดีต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง

ในเมื่อสภาวะทางอากาศไม่เป็นใจให้เราต้องออกไปกำลังกายกลางแจ้ง การมีอีกหนึ่งตัวเลือกอย่างลู่วิ่งไฟฟ้า ไว้ติดบ้าน ก็ถือว่าไม่ได้เป็นความคิดที่แย่สักเท่าไรนัก เพราะนอกจากจะมีการใช้งานที่ง่าย และสะดวกแล้ว ยังสามารถส่งผลดีให้แก่สุขภาพของเราได้มากมาย ดังนี้

  • ปรับปรุงความยืดหยุ่นของข้อต่อ

การวิ่งบนลู่วิ่งเป็นประจำอาจสามารถช่วยปรับความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวบริเวณข้อต่อของคุณให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะเนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้า สามารถปรับระดับต่าง ๆ ให้เข้ากับการวิ่งของคุณได้อย่างลงตัว  ที่สำคัญความยืดหยุ่นนี้อาจเป็นการช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคกระดูกเสื่อม และโรคข้ออักเสบในยามที่คุณเข้าสู่ช่วงสูงวัยได้อีกด้วย

  • ส่งเสริมการลดน้ำหนัก

เนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้ามีระบบการเพิ่มความหน่วง และระบบการปรับความเร็วให้ ดังนั้นการวิ่งของคุณในแต่ละครั้งอาจเผาผลาญแคลอรี่ไปได้ถึง 100 แคลอรี่ ต่อไมล์ ซึ่งถ้าหากคุณวิ่งตามโปรแกรมที่เหมาะสม โดยใช้เวลาอย่างน้อยประมาณ 1 ชั่วโมง ก็อาจช่วยให้คุณนั้นมีการการเผาผลาญแคลอรี่ได้อีกเป็นจำนวนมาก อย่างน้อย 600 แคลอรี่เลยทีเดียว

  • สุขภาพหัวใจแข็งแรง

การวิ่งด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า ส่วนใหญ่นั้นมักมาพร้อมกับเครื่องอัตราการเต้นของหัวใจที่จะเอื้ออำนวยความสะดวกให้คุณติดตามการเต้นของหัวใจของคุณได้อย่างใกล้ชิดได้ในขณะวิ่ง ซึ่งคุณจะสามารถรู้ได้ทันทีเลยว่าวิ่งระดับไหนจึงจะพอเหมาะและไม่หักโหมจนเกินไป เพราะถ้าหากคุณวิ่งในระดับที่พอดีอย่างเป็นประจำต่อเนื่อง ก็อาจเป็นการเพิ่มระบบการไหลเวียนของเลือดนั้นให้ได้รับออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น พร้อมกับช่วยลดความดันโลหิต ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจวายได้

  • ฟื้นฟูสุขภาพจิตใจ

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่คุณอาจได้รับประโยชน์จากการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้านั่นก็คือการปรับปรุงจิตใจ และอารมณ์ให้คุณนั้นรู้สึกดีขึ้นได้ เนื่องจากการออกกำลังกายด้วยการวิ่งระดับเบาจะทำให้สมองของคุณมีการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endorphin) หรือสารแห่งความสุขออกมา เพื่อนำไปบรรเทาอาการวิตกกังวลจากเรื่องราวต่างๆ ที่ประสบในแต่ละวัน รวมไปถึงบำบัดผู้ที่กำลังตกอยู่ใน ภาวะซึมเศร้า (Depression) โดยตรงได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน

ข้อเสียของการใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าออกกำลังกาย

แน่นอนว่าลู่วิ่งไฟฟ้าไม่ได้มีข้อดีเพียงอย่างเดียวเสมอไป แต่ยังมีข้อเสียบางประการ ที่คุณควรรู้และสามารถนำไปประกอบการพิจารณาก่อนการซื้อมาไว้ที่บ้านในระยะยาวได้ ดังต่อไปนี้

อาจมีราคาที่ค่อนข้างแพงในบางรุ่น และแต่ความเหมาะสมทางสุขภาพผู้ใช้ พื้นผิวที่รองรับแรงกระแทกขณะวิ่งในบางรุ่น อาจมีผลกระทบต่อหลัง สะโพก หัวเข่า ข้อต่อ และข้อเท้ามากเกินไป ดังนั้นก่อนการตัดสินใจซื้อทุกครั้งคุณควรได้ลองวิ่งสักเล็กน้อยเสียก่อน ลู่วิ่งไฟฟ้าบางรุ่นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ คุณจึงควรจัดสรรหาพื้นที่ในการจัดวางให้ดี เนื่องจากลู่วิ่งไฟฟ้ามีเขตพื้นที่จำกัด อาจทำให้ขณะที่คุณวิ่งเกิดรู้สึกเบื่อหน่ายได้ บางรุ่นของลู่วิ่งไฟฟ้ามักมีเทคโนโลยีที่อาจเยอะกว่ารุ่นเก่า ๆ จึงทำให้บางครั้งจำเป็นที่ต้องได้รับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วย เพื่อเป็นการออกโปรแกรมการวิ่งให้คุณ และนำไปประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อว่าตนเองเหมาะกับรุ่นใด สิ่งที่คุณควรรู้ ก่อนเริ่มวิ่งบน ลู่วิ่งไฟฟ้า

ในก่อนการเริ่มวิ่งทุกครั้งคุณควรมีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อนเพราะบางครั้ง ลู่วิ่งไฟฟ้าอาจไม่เหมาะกับสภาวะสุขภาพที่คุณกำลังประสบอยู่ก็เป็นได้ แต่หากกรณีที่ได้รับการอนุญาตแล้วนั้นลำดับถัดไปคุณควรศึกษาถึงการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าอย่างถูกต้องจากวิธีเหล่านี้

  • การก้าวเข้าสู่บนลู่วิ่งไฟฟ้า

คุณไม่ควรก้าวขึ้นสู่สายพาน หรือบนลู่วิ่งในขณะที่เครื่องยังคงทำงาน โปรดเริ่มต้นการก้าวเท้าของคุณเข้าไปหลังจากที่สายพานนิ่งแล้วเท่านั้น และโปรดสังเกตปุ่มหยุดฉุกเฉินบนเครื่องเอาไว้ หากมีกรณีที่ผิดพลาดใดขึ้นมา คุณจะได้สามารถกดปุ่มหยุดได้เท่าทัน อีกทั้งการเริ่มต้นการวิ่งควรปรับให้อยู่ในระดับต่ำเสียก่อนเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมร่างกายแล้วค่อยเร่งเพิ่มระดับขึ้นตามความต้องการ

  • อย่าจับราว หรือคอนโซล

โปรดงดการจับราวบนลู่วิ่งไฟฟ้า เพราะการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้านั้น ต้องเป็นไปอย่างท่าที่ธรรมชาติ เสมือนการวิ่งด้านนอก เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีอาการบาดเจ็บ หรืออยู่ในโปรแกรมการบำบัดของนักกายภาพบำบัดที่ออกโปรแกรมให้คุณฟื้นฟูร่างกายเท่านั้น

  • งดการเอาชนะตนเอง หรืออยากข้ามผ่านขีดจำกัด

การกระทำเช่นนี้ เรียกได้ว่าอาจสร้างอันตรายให้แก่ข้อเท้าคุณอย่างมาก และอาจเสี่ยงก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เพราะการวิ่งที่ดีไม่จำเป็นต้องปรับระดับความไวให้อยู่สูงสุด แต่เป็นการปรับระดับให้พอดีกับกำลัง และสุขภาพของตนเอง พร้อมกับกำหนดเวลาที่เหมาะสมในการวิ่งให้นาน หรือน้อยจนเกินไป

  • ไม่ควรโน้มตัวไปด้านหน้า หรือห่อไหล่

นอกจากการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงให้สุขภาพแล้ว การวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้ายังอาจเป็นการส่งเสริมบุคลิกภาพไปในตัวได้อีกด้วย เพราะถ้าคุณเผลอมีการงอหลัง หรืออยู่ในท่าทางที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้คุณมีอาการปวดหลัง ปวดคอ ปวดไหล่ รวมไปถึงกระดูกสันหลังผิดรูปได้มากกว่าเดิม

ซึ่งในท่าทางที่ดีเบื้องต้นในการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า คุณอาจเริ่มได้จากการยกศีรษะขึ้น และมองออกไปด้านหน้า พร้อมกับสังเกตไหล่ตนเองว่าโน้มไปข้างหน้าหรือไม่ หากมีการโน้มไปให้คุณพยายามยกไหล่ของคุณออกไปด้านหลัง ให้รู้สึกถึงหน้าอกผายไหล่ผึ่ง ถึงอย่างไรก็ตามคุณสามารถปรึกษาเทรนเนอร์ได้อีกครั้งถึงท่าทางที่ถูกต้องในการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า เพื่อที่ร่างกายของคุณจะได้รับประโยชน์จากการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook