อาหารควบคุม "น้ำตาล" ในเลือด ที่ชาวญี่ปุ่นแนะนำ
ระดับน้ำตาลที่เพิ่มสูงขึ้นในเลือดจะส่งผลทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินมากขึ้นเพื่อเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นไขมันและนำไปสะสมไว้ในร่างกาย หากชอบทานอาหารที่มีรสหวานและทานในปริมาณมากบ่อยๆ ก็จะทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินผิดปกติและนำไปสู่การเกิดโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้หากระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงและลดอย่างรวดเร็ว จะทำให้รู้สึกหิวง่ายและกินจุกจิก จนนำไปสู่โรคอ้วนได้ง่าย มารู้จักอาหารที่ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นแนะนำให้ทานบ่อยๆ เพื่อจุดประสงค์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลที่เพิ่มสูงในเลือดและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ส่งผลในการรักษาระดับการผลิตอินซูลินในร่างกายให้ปกติกัน
อาหารควบคุม "น้ำตาล" ในเลือด ที่ชาวญี่ปุ่นแนะนำ
หัวหอม
หอมใหญ่
หอมใหม่มีสารที่เรียกว่าไอโซอัลลิอิน (Isoalliin) ซึ่งมีผลในการช่วยการทำงานของอินซูลินในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยปริมาณที่ควรรับประทานเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดนั้นประมาณวันละ ¼ -1/2 หัว ทั้งแบบดิบหรือแบบสุกตามชอบ
อะโวคาโด
อะโวคาโด
อะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (Unsaturated fatty acids) ซึ่งช่วยชะลอการไหลของน้ำตาลไปยังหลอดเลือด ดังนั้นจึงช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อะโวคาโดยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยชะลอการดูดซับน้ำตาลจากอาหารเข้าสู่ร่างกาย
นัตโตะ (ถั่วหมัก)
นัตโตะ (ถั่วหมัก)
นัตโตะ หรือถั่วหมัก เป็นผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองหมักที่อุดมไปด้วยเพคติน ซึ่งเป็นเส้นใยชนิดละลายน้ำได้ เพคตินจะช่วยกดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังการทานอาหาร อีกทั้งนัตโตะยังอุดมไปด้วยกลูโคแมนแนนซึ่งเป็นเส้นใยอาหารที่มีลักษณะเป็นเมือกหนืด ช่วยกันไม่ให้น้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว การทานนัตโตะเป็นประจำจึงเป็นวิธีการป้องกันโรคเบาหวานของคนญี่ปุ่น
ปลาเนื้อสีน้ำเงิน
ปลาเนื้อสีน้ำเงิน
ปลาเนื้อสีน้ำเงิน ได้แก่ ปลาซาบะ ปลาซาร์ดีน ปลาทู ปลาซันมะ และปลาคัตสึโอะ เป็นต้น อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 และวิตามินดี ซึ่งทำงานร่วมกันในการทำให้การหลั่งของอินซูลินเป็นปกติ
ต้นอ่อนบร็อคโคลี่
ต้นอ่อนบร็อคโคลี่
ต้นอ่อนบร็อคโคลี่อุดมไปด้วยสารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งช่วยให้ร่างกายควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี นอกจากต้นอ่อนบร็อคโคลี่แล้ว บร็อคโคลี่ ดอกกะหล่ำดอก กะหล่ำปลี คะน้า และผักกาดขาว ก็มีสารซัลโฟราเฟนเช่นกัน แต่ต้นอ่อนบร็อคโคลี่จะมีสารประกอบชนิดนี้สูงสุด
กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวมีเส้นใยอาหารเพคตินที่เป็นเมือกเหนียว ซึ่งจับกับน้ำตาลในร่างกาย ชะลอการเพิ่มสูงของระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียมและสังกะสี ซึ่งช่วยให้การทำงานของอินซูลินดีขึ้น
ข้าวบาร์เล่ย์
ข้าวบาร์เล่ย์
ข้าวบาร์เล่ย์ อุดมไปด้วยบีต้ากลูแคน ( β-glucan) ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำได้และช่วยป้องกันการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้ข้าวบาร์เล่ย์ยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำ ซึ่งทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็วและทำให้ทานอาหารได้น้อย ส่งผลในการป้องกันการเพิ่มของระดับน้ำตาลในเลือดโดยทางอ้อม นอกจากข้าวบาร์เลย์แล้ว ข้าวโอ๊ตและข้าวสาลีก็มีบีต้ากลูแคนมากเหมือนกัน
เมื่อชีวิตขาดหวานไม่ได้ เราก็ต้องมีวิธีดูแลเพื่อไม่ให้ความหวานนั้นมาทำลายสุขภาพเรา ลองทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำดูนะคะ นอกจากจะช่วยป้องกันไม่ให้อ้วนง่ายแล้วก็ยังป้องกันโรคเบาหวานได้ด้วย ทั้งนี้ผู้เขียนคิดว่าอาหารเหล่านี้น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานด้วย เพราะอาหารตามธรรมชาติจะช่วยลดปริมาณน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นในกระแสเลือดหลังมื้ออาหาร นำไปสู่การลดปริมาณยาที่ต้องทานเพื่อควบคุมน้ำตาล ซึ่งหมายความว่าจะช่วยถนอมร่างกายของพวกท่านจากผลข้างเคียงของยาได้
