ประโยชน์ของ "น้ำมันมะกอก" ในอาหารไทย

ประโยชน์ของ "น้ำมันมะกอก" ในอาหารไทย

ประโยชน์ของ "น้ำมันมะกอก" ในอาหารไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น่าจะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า “น้ำมันมะกอก” มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเป็นไขมันที่ดีต่อร่างกาย และสามารถนำมาปรุงอาหารง่ายๆ อย่างการหมักเนื้อสัตว์ หรือเป็นส่วนผสมของน้ำสลัดแสนอร่อยได้ แต่หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่า นอกจากอาหารตะวันตกแล้ว น้ำมันมะกอกสามารถนำมาทำอาหารไทยได้หรือไม่ หรือทำเมนูอะไรได้บ้าง แล้วดีกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นอย่างไร

ทำไมเราถึงควรกิน “น้ำมันมะกอก”

งานวิจัยภายใต้โครงการ “อาหารไทยหัวใจดี” โดยมูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ระบุว่าน้ำมันมะกอกเป็นน้ำมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคต่างๆ อาทิ เบาหวาน มะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดเนื่องจากอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล สารต้านอนุมูลอิสระ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว วิตามินอีและเค

น้ำมันมะกอกนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวในปริมาณที่สูง ซึ่งช่วยลดความดันรวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่บริโภคน้ำมันมะกอกเป็นประจำนั้น สามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและความดันโลหิตสูงได้ถึงร้อยละ 35 นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบ และรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดอีกด้วย

น้ำมันมะกอก ปรุงอาหารไทยได้อย่างไรบ้าง?

น้ำมันมะกอกสูตรเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น หรือ เวอร์จิ้น

น้ำมันมะกอกสูตรเอ็กซ์ตร้า เวอร์จิ้น หรือ เวอร์จิ้น เป็นสูตรที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุด เหมาะกับการทำอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น เป็นส่วนผสมในซอสที่ใช้หมักหมู ไก่ เนื้อ ไก่ ปลาให้นุ่ม หรือจะเป็นส่วนผสมในซอสที่ใช้จิ้มรับประทานกับเนื้อสัตว์ก็ได้

น้ำมันมะกอกสูตรเอ็กซ์ตร้า ไลท์ หรือ ไลท์

น้ำมันมะกอกสูตรเอ็กซ์ตร้า ไลท์ หรือ ไลท์ สามารถนำมาปรุงอาหารแบบผ่านความร้อนได้ เช่น การผัดต่างๆ ผัดเนื้อสัตว์ ผัดผัก ผัดกะเพรา ผัดขี้เมา หรือทอด เช่น ทอดไข่ ทอดหมู ทอดไก่ โดยสามารถใช้ได้เหมือนการใช้น้ำมันพืช หรือน้ำมันหมูทั่วไป

วิธีเลือกน้ำมันมะกอกที่ดี

น้ำมันมะกอกที่ดี ได้มาจากวัตถุดิบสำคัญอันแสนเรียบง่ายเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือผลมะกอกนั่นเอง ขณะที่ไวน์ชั้นเลิศเกิดการจากบ่มด้วยระยะเวลานาน แต่การผลิตน้ำมันมะกอกนั้นกลับกัน เพราะว่ามะกอกจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และโพลีฟีนอลที่มากกว่าเมื่อเก็บจากต้นทันทีที่สุกเต็มที่

น้ำมันมะกอกที่ดีวัดได้จากค่ากรดไขมันที่ต่ำ ยิ่งผู้ผลิตเก็บเกี่ยวผลมะกอกและสกัดได้เร็วเท่าไร ยิ่งดีเท่านั้น เพราะว่าน้ำมันมะกอกที่ได้จะมีค่ากรดไขมันที่ต่ำกว่า จึงส่งผลดีต่อสุขภาพยิ่งกว่า

ดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ ไม่ได้มีไว้เพียงแค่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว เพราะว่ามันส่งผลต่อคุณภาพของน้ำมันมะกอกด้วย ขวดแก้วสีเขียวทำหน้าที่ป้องกันน้ำมันจากความร้อน แสง และออกซิเจนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาคุณภาพให้อยู่ในระดับสูงสุดตลอดอายุของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ฉลากกำกับบนขวดยังบอกรายละเอียดและข้อมูลต่างๆ อย่างชัดเจนเพื่อให้ผู้บริโภคทราบถึงวิธีการใช้ที่เหมาะสม รวมถึงวันเดือนปีที่ผลิต และวันหมดอายุ

วิธีเก็บรักษาน้ำมันมะกอก

เพื่อให้คุณภาพของน้ำมันมะกอกดีเหมือนเดิมไปนานๆ ควรเก็บน้ำมันมะกอกเอาไว้ในที่แห้ง ไม่ร้อน ไม่โดนแสงแดด และไม่ควรวางอยู่ใกล้เตาไฟอยู่ตลอดเวลา เพราะความร้อนอาจทำให้คุณภาพของน้ำมันมะกอกลดลงได้ และควรปิดฝาขวดให้แน่นสนิทหลังใช้งานทุกครั้งด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook