วิธี "ลดหวาน-ล้างพิษน้ำตาล" เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
การติดหวาน และรับประทานน้ำตาลมากเกินกว่าในปริมาณที่เหมาะสม เป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ส่งผลให้คนเราเกิดอาการป่วย มีสุขภาพที่ไม่ดี และมีอายุยืนยาวลดลง ดังนั้น การลดปริมาณการกินน้ำตาล จึงอาจสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพเหล่านี้ได้
Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมารู้จักกับ หลักการกินอาหารแบบ ล้างพิษน้ำตาล ว่าเป็นอย่างไร และมีข้อดีอะไรบ้าง
หลักการของการ "ล้างพิษน้ำตาล" เป็นอย่างไร
หลักสำคัญของการกินอาหารแบบ ล้างพิษน้ำตาล (Sugar Detox) หมายถึงวิธีการทำอย่างไรก็ได้ ให้เรามีความต้องการที่จะกินของหวานลดลง ลดอาการติดหวาน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการลดการกินน้ำตาล หาทางเลือกอื่นแทนการกินน้ำตาล หรือแม้กระทั่งการหักดิบงดกินน้ำตาลไปเลย เพื่อทำให้ร่างกายของเราเกิดความเคยชิน และสามารถลดปริมาณการกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงลงได้
ในปัจจุบัน คนจำนวนมากได้รับประทานน้ำตาลในปริมาณมากกว่าที่แพทย์แนะนำ จากข้อมูลของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute for Health; NIH) ได้รายงานว่า คนส่วนใหญ่จะได้รับแคลอรี่จากน้ำตาลที่เติมลงในอาหารและเครื่องดื่มมากถึง 15% ของปริมาณที่แนะนำ โดยยังไม่ได้รวมถึงน้ำตาลที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติ เช่น น้ำตาลในผลไม้ หรือน้ำตาลในนม และในอาหารชนิดอื่นๆ ส่งผลให้คนส่วนใหญ่จึงมักจะรับประทานน้ำตาลมากกว่าปริมาณที่เหมาะสม
การรับประทานน้ำตาลมากเกินไปนั้นสามารถส่งผลร้ายต่อร่างกายได้ มีงานวิจัยที่พบว่า การกินน้ำตาลมากเกินไป อาจมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันพอกตับ หรือฟันผุ เป็นต้น การล้างพิษน้ำตาล อาจจะสามารถช่วยแก้ไขอาการติดหวาน และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเหล่านี้ได้
ข้อดีของการ ล้างพิษน้ำตาล
- น้ำหนักลด
อย่างที่รู้กันว่า หากเราต้องการลดน้ำหนัก ให้ลดการกินน้ำตาล การล้างพิษน้ำตาล จะช่วยให้เรารู้สึกอยากกินของหวานลดลง และหันไปรับประทานอาหารอื่นที่มีคุณค่าทางสารอาหารมากกว่า เช่น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ ช่วยลดปริมาณของแคลอรี่ส่วนเกินที่มาจากน้ำตาล ทำให้เรามีน้ำหนักตัวลดลง
- ลดความเสี่ยงการเกิดโรค
น้ำตาลนั้นเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังมากมาย โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ที่มีความเกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือด การล้างพิษน้ำตาลเพื่อลดปริมาณการบริโภคน้ำตาล จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดต่างๆ เหล่านี้ได้อีกทางหนึ่ง
- ทำให้รู้สึกสดชื่นอยู่ตลอดเวลา
เราอาจจะเคยได้ยินว่าการกินของหวาน จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำตาลนั้นสามารถทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นได้จริง แต่ก็เป็นเพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป ความสดชื่นเหล่านั้นก็จะหายไป และเหลือไว้แต่ความเหนื่อยล้าแทน การกินอาหารแบบล้างพิษน้ำตาลจะทำให้เราได้รับพลังงานอย่างสม่ำเสมอ และทำให้เรารู้สึกสดชื่นตลอดวัน
ข้อควรระวังจากการล้างพิษน้ำตาล
แม้ว่า การล้างพิษน้ำตาล นั้นจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในเรื่องของการช่วยให้เราสามารถลดการกินน้ำตาลลงได้ แต่ก็อาจส่งผลกระทบบางอย่างกับร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ที่ติดหวาน การลดหรืองดน้ำตาลอย่างเด็ดขาด อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ดังนี้
- ผลกระทบต่อร่างกาย
คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ เหนื่อยล้า รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง ปวดหัว ท้องอืด ปวดท้อง
- ผลกระทบต่อจิตใจ
หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวล นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ รู้สึกลงแดง อยากกินของหวาน
อาการเหล่านี้มักจะไม่มีอาการรุนแรงมาก และจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อร่างกายของคุณปรับตัวเข้ากับนิสัยการกินของหวานที่ลดลงของคุณแล้ว อาการเหล่านี้ก็จะหายไปได้เอง โดยไม่ต้องทำการรักษาใดๆ
แนวทางในการล้างพิษน้ำตาลอย่างเหมาะสม
- ค่อยๆ ลดปริมาณ หากปกติแล้วคุณเป็นคนที่ต้องทานของหวานเป็นประจำ การงดรับประทานของหวานในทันที อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และตบะแตกได้ง่ายๆ ดังนั้นคุณจึงควรค่อยๆ ลดปริมาณของหวานที่รับประทานลงมา แทนการงดของหวานไปเลย
- เปลี่ยนจากน้ำหวานมาเป็นน้ำเปล่า ผู้ที่ติดหวานส่วนใหญ่นั้นมักจะชอบดื่มน้ำหวานต่างๆ ทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง ควรเปลี่ยนจากการดื่มน้ำหวานเหล่านี้ มาเป็นการดื่มน้ำเปล่าที่ไม่มีแคลอรี่แทน หรือหากคุณรู้สึกเบื่อน้ำเปล่า อาจลองเปลี่ยนมาดื่มโซดา หรือเติมผลไม้ หรือใบมินท์หอมๆ ลงในน้ำเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติก็ได้เช่นกัน
- หลีกเลี่ยงน้ำตาลเทียม หลีกเลี่ยงสารให้ความหวานแทนน้ำตาลต่างๆ ทั้งหญ้าหวาน ซูคราโลส (Sucralose) หรือแอสปาร์แตม (Aspartame) เพราะแม้ว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลเหล่านี้จะไม่มีแคลอรี่ และไม่ส่งผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือด แต่ก็อาจจะทำให้คุณยังคงติดรสชาติหวานอยู่ และไม่สามารถลดกินหวานได้อย่างมีประสิทธิภาพนัก
- อ่านฉลากก่อนซื้อ ควรอ่านฉลากของอาหาร ขนม และเครื่องดื่มต่างๆ ก่อนรับประทาน เพราะอาหารเหล่านั้นอาจแฝงมาพร้อมกับน้ำตาล หรือสารให้ความหวานอื่นๆ อยู่เช่นกัน
- เลือกกิน เลือกอาหารและขนมของขบเคี้ยวให้ดีก่อนจะกิน ควรหันมากินอาหารที่ไม่มีน้ำตาล เช่น ถั่ว ไข่ เนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ต่างๆ แทนการกินขนมที่มีน้ำตาลสูง