5 เช็กลิสต์ เรากำลัง "หละหลวม-การ์ดตก" เพื่อป้องกัน "โควิด-19" กันอยู่หรือเปล่า?
ช่วงนี้สถานการณ์ COVID-19 เริ่มมีแววว่าจะระบาดระลอก 2 ถึงจะยังไม่ระบาดเป็นวงกว้างเท่ากับรอบแรก แต่ก็นับว่าน่ากังวลที่สุดหลังจากผ่อนคลายมาตรการไปนานหลายเดือน สิ่งที่ต้องเป็นห่วงในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเพราะมีคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมแล้ว ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ตัวเราเองหละหลวมการป้องกันตัวเองด้วย เมื่อหละหลวมกัน 10 คน ก็เสี่ยงโรคกัน 10 คน และเมื่อหละหลวมกันครึ่งค่อนประเทศ ก็ทำให้มีคนเสี่ยงติดโรคครึ่งค่อนประเทศเช่นกัน
ฉะนั้น เราลองมาสำรวจกันดูหน่อยดีกว่าว่าตอนนี้เราหละหลวมมาตรการป้องกัน COVID-19 อะไรกันไปแล้วบ้าง ซึ่งเราจำเป็นต้องรู้ เพื่อเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าหากไม่เข้มงวดกับมาตรการป้องกันโรค โอกาสที่สถานการณ์จะแย่แบบที่ผ่านมาก็เป็นไปได้สูง แต่ถ้าเราป้องกันตัวเองเป็นอย่างดี กลับมาทำตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดแล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องกลัวจนเกินเหตุขนาดนั้น
- ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า
หลายคนอาจเถียงได้ว่าก็ใส่แล้วนี่จะเอายังไงอีก แต่จากที่เห็นมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใส่เฉพาะเวลาที่สถานการณ์บังคับเช่น ขึ้นรถเมล์ เข้าห้าง แต่พอคนอื่นไม่สนใจก็ดึงลงมากองไว้ที่ปลายคาง หรือไม่ก็ห้อยต่องแต่งอยู่ระหว่างหน้าอกแทน ถ้าอากาศร้อน เหงื่อออก หายใจไม่ออก แต่อยู่ในที่โล่งแจ้ง อากาศปลอดโปร่งแล้วดึงออกก็พอเข้าใจอยู่ แต่ถ้าเป็นที่ที่อากาศปิด ไม่ถ่ายเท ก็อดทนสักหน่อยละกัน
- กลับไปใช้ของใช้บางอย่างร่วมกัน
เรารู้กันมาตั้งแต่ COVID-19 ระบาดช่วงแรก แล้วว่าเชื้อไวรัสนี้เข้าสู่ร่างกายได้จากการแพร่กระจายเชื้อของละอองฝอย ทั้งจากการไอ การจาม น้ำลาย และน้ำมูก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราควรแยกของใช้ส่วนตัวออกจากกัน แต่ขณะนี้บางบ้านย่ามใจ เลิกใช้ช้อนกลาง ใช้ช้อนตัวเองตักจ้วงลงไปกับข้าวส่วนกลาง จริงอยู่ที่ว่า การอยู่บ้านเดียวกันก็มีโอกาสที่จะติดกันอยู่แล้วแม้จะใช้ช้อนกลาง แต่จะดีกว่าไหมหากเราลดโอกาสเสี่ยงไปได้อีก 1 ทาง
- เลิกล้างมือแบบพิถีพิถัน
พอผ่านพ้นช่วงระบาดหนักมา หลายคนก็ลืมวิธีล้างมือแบบพิถีพิถัน เลิกร้องเพลงช้าง เลิกใช้สบู่ และกลับมาล้างมือแบบมือผ่านน้ำจบอีกตามเคย แม้แต่ขวดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก็แห้งกรังอยู่ในกระเป๋าไปเสียแล้ว แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าตราบใดที่โรคนี้ยังไม่ล้มหายตายจากแบบหมดเกลี้ยง ก็ยังต้องล้างมือด้วย 7 วิธีล้างมือให้สะอาดป้องกันไวรัส COVID-19 กันต่อไป ถูสบู่ให้ทั่ว ล้างมือให้สะอาด และไม่ควรต่ำกว่า 20 วินาที
- ไม่เว้นระยะห่าง
เมื่อสถานการณ์โรคระบาดมันดีขึ้น หลายๆ ที่ต่างก็เลิก Work from Home ให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานในออฟฟิศกันตามปกติ ทำให้การเว้นระยะห่างระหว่างกันทำได้ค่อนข้างยาก ทั้งการเดินทางโดยรถสาธารณะ การนั่งทำงานอยู่ใกล้ๆ กัน บางสถานการณ์ก็หลีกเลี่ยงได้ยากจริง ๆ แต่อย่างน้อยก็ควรจะรักษาระยะห่างไว้ประมาณหนึ่ง อย่าเข้าใกล้จนเกินไป ที่สำคัญต้องป้องกันตัวเองด้วย เพราะหากติดโรคมาแล้วจะไม่คุ้มกัน
- ไม่สแกนไทยชนะ
ไม่ใช่ว่าคนใช้บริการไม่สแกนอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ห้างร้านก็ไม่ได้เข้มงวดแล้วเหมือนกันด้วย รู้อยู่ว่าขี้เกียจ รู้ว่าไม่อยากทำ แต่ก็คงไม่มีใครอยากจะอยู่กับ COVID-19 ไปอีก 2-3 ปีหรอก ดังนั้น หากอยากให้โลกปราศจาก COVID-19 เร็วๆ ก็ต้องร่วมมือกันทำตามมาตรการป้องกันโรค อย่าแกล้งทำเป็นสแกนเลย ถ้ามีคนติดขึ้นมาเขาก็ตามตัวเราไม่ได้ ไม่ต้องกลัวโดนล้วงข้อมูล อย่างไรเราก็มีชื่ออยู่ในทะเบียนราษฎร์ กระทรวงมหาดไทยอยู่ดีนั่นแหละ