แพทย์แนะนำวิธีดูแลดวงตา อากาศหนาวเสี่ยง “ตาแห้ง”
เมื่อถึงช่วงฤดูหนาว แม้ว่าอากาศในเมืองไทยจะไม่ได้หนาวมาก แต่ในหลายๆ จังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนืออาจมีอากาศหนาวเย็นมากขึ้น โอกาสที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บช่วงหน้าหนาวก็เพิ่มขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่สุขภาพทั่วไป ในกลุ่มผู้มี อาการตาแห้ง เป็นอีกกลุ่มที่ไม่ควรมองข้ามแนะหากมีอาการตาแห้งผิดปกติควรรีบพบจักษุแพทย์
อากาศหนาวเสี่ยง “ตาแห้ง”
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ช่วงอากาศหนาวที่มาถึงนี้ นอกจากทำให้ผิวพรรณแห้งแตกเป็นขุยแล้ว ลมหนาวและแสงแดดที่ร้อนจัดยังทำให้เกิดปัญหากับดวงตา อาทิเช่น “ตาแห้ง” ได้ เพราะช่วงหน้าหนาวอากาศจะแห้งและเย็นมีผลให้น้ำที่หล่อเลี้ยงลูกตาตามธรรมชาติระเหยไปได้ง่ายกว่าปกติ
สัญญาณอันตราย “ตาแห้ง” ผิดปกติ
ปัญหาตาแห้งอาจเกิดได้กับทุกคนโดยมีอาการและความรุนแรงของแต่ละคนแตกต่างกัน เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาระเหยอาจไม่แสดงอาการผิดปกติหรือเกิดอาการระคายเคืองตา เหมือนมีฝุ่นทรายเข้าตาทำให้เกิดมีอาการตาแดง แสบตา โดยอาการอาจคล้ายโรคภูมิแพ้ขึ้นดวงตา กรณีตาแห้งรุนแรงที่สุดจะมีอาการอักเสบ เคืองตาอย่างรุนแรง ตาพร่ามัว
นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงหน้าหนาวอากาศแห้งและเย็น ทำให้น้ำที่หล่อเลี้ยงลูกตาอยู่ตามธรรมชาติระเหยไปได้ง่ายกว่าปกติ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตามอาจจะเจอปัญหานี้ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแต่ละคน ผู้ที่ตาแห้งอาจมีอาการแสบตา ปวดตา เคืองตา มีขี้ตาเป็นเมือก ตาพร่ามัว มองไม่ชัด
กลุ่มเสี่ยงอาการตาแห้ง
สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดปัญหาตาแห้ง คือ
- กลุ่มผู้สูงอายุ
- ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์
- กลุ่มบุคคลที่ทำงานอยู่กลางแจ้ง เจออากาศแห้งและลมแรง
- กลุ่มคนที่ใช้สายตามาก เช่นกลุ่มที่ทำงานต้องเพ่งนานๆ เช่น อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ
- กลุ่มที่รับประทานยาบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้ตาแห้งง่ายกว่าปกติ เช่น ยาลดความดัน ยาแก้แพ้ ดังนั้น
หากมีปัญหากับดวงตาหรือมีอาการผิดปกติควรพบจักษุแพทย์
วิธีดูแลดวงตา ลดเสี่ยงตาแห้ง
สำหรับการดูแลดวงตาไม่ให้มีอาการตาแห้ง ทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงการออกแดด หรือโดนลม สวมแว่นกันแดดหรือหมวกทุกครั้งที่ออกแดด
- หลีกเลี่ยงการใช้สายตา หรือการเพ่งนานๆ หากมีการใช้สายตา ควรพักสายตาเป็นระยะ ทุก 30-60 นาที
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายเพื่อทำให้ตาชุ่มฉ่ำ และเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำเวลาอยู่กลางแจ้ง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เช่น ผัก ผลไม้ ปลา รวมถึงอาหารที่มีกรดไขมันจำเป็น กลุ่มโอเมก้า-3
- ใช้น้ำตาเทียมเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา มีทั้งชนิดน้ำและเจล โดยส่วนใหญ่อาการตาแห้งไม่ได้ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อดวงตามากนัก แต่สร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วยมากกว่า
ประชาชนจึงควรที่จะรู้จักกับอาการตาแห้งเพื่อจะได้ไม่เกิดอาการวิตกกังวลจนเกินเหตุ รวมถึงจะได้สามารถตั้งรับ รู้วิธีการรักษาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถสังเกตอาการง่ายๆ คือ รู้สึกไม่สบายตา ระคายเคือง แสบตา ให้สงสัยว่าอาจเข้าข่ายอาการนี้ หากมีอาการที่รุนแรงแนะนำให้พบจักษุแพทย์