ประโยชน์ของ "โอ๊ตมีล" (Oatmeal) มื้อเช้าดีๆ ที่หลายคนชอบ
หากคุณเริ่มเบื่อซีเรียลแบบเดิมๆ ในมื้อเช้าแล้ว แต่ยังต้องการอาหารเช้าแบบง่ายๆ ที่เหมาะกับเวลาเร่งรีบ อิ่มง่าย สบายท้อง และดีต่อสุขภาพ Hello คุณหมอ ขอนำเสนอ โอ๊ตมีล คุณประโยชน์ดีๆ จาก ข้าวโอ๊ต ที่จะช่วยให้มื้อเช้าของคุณไม่จำเจอีกต่อไป แต่โอ๊ตมีลจะดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้างนั้น มาติดตามกันที่บทความนี้เลย
โอ๊ตมีล คืออะไร
อาจจะเป็นที่สับสนสำหรับใครหลาย ๆ คน ว่าตกลงแล้ว ข้าวโอ๊ต กับ โอ๊ตมีล มันต่างกันยังไง? เพราะก็เป็นข้าวโอ๊ตเหมือน ๆ กัน แต่ในความจริงแล้วเวลาพูดถึงข้าวโอ๊ต มักจะหมายถึงเมล็ดข้าวโอ๊ตทั้งเมล็ด และยังไม่ผ่านการแปรรูปใด ๆ ส่วนมากมักจะใช้เป็นอาหารสัตว์ หรือใช้ในอุตสาหกรรมปศุสัตว์ แต่โอ๊ตมีลจะหมายถึง ข้าวโอ๊ต ที่ผ่านการบด หรือผ่านกรรมวิธีการแปรรูปที่สามารถทำให้สุกได้เร็วภายในเวลาไม่กี่นาที เรามักจะกินโอ๊ตมีลกันในรูปแบบของซีเรียล เติมน้ำร้อน หรือเติมนมอุ่น ๆ รับประทานเป็นมื้อเช้า โอ๊ตมีลจะมีความนิ่ม ความแฉะ คล้ายกับโจ๊ก
สารอาหารในโอ๊ตมีล
โอ๊ตมีลประกอบไปด้วย ข้าวโอ๊ต ที่ผ่านกรรมวิธีการบดการรีดจนแบน พร้อมสำหรับการรับประทาน และการรับประทานโอ๊ตมีลครึ่งถ้วย (ประมาณ 78 กรัม) จะได้รับสารอาหารสำคัญ ดังนี้
- พลังงาน 303 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 51 กรัม
- โปรตีน 13 กรัม
- ไขมัน 5 กรัม
- ไฟเบอร์ 8 กรัม
นอกจากนี้ ข้าวโอ๊ต ยังให้แร่ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด เช่น
- แมงกานีส
- ฟอสฟอรัส
- แมกนีเซียม
- ธาตุเหล็ก
- โฟเลต (Folate)
- วิตามินบี 1
- วิตามินบี 5
- วิตามินบี 6
รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์อีกด้วย
ประโยชน์ของโอ๊ตมีล
- ลดความดันโลหิต
ข้าวโอ๊ต มีสารต้านอนุมูลอิสระที่โดดเด่นจนอาจจะเรียกได้ว่า เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถพบได้เฉพาะในข้าวโอ๊ตเท่านั้น ได้แก่ อาวีนันทราไมต์ (Avenanthramide) ซึ่งจะเข้าไปผลิตก๊าซไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) โมเลกุลของก๊าซจะช่วยขยายหลอดเลือดให้กว้างขึ้น ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง มากไปกว่านั้นอาวีนันทราไมต์ยังมีส่วนช่วยลดอาการคัน และมีสรรพคุณต้านการอักเสบด้วย
- อุดมไปด้วยเบต้า กลูแคน
ข้าวโอ๊ต มีเบต้า กลูแคน (Beta glucan) ซึ่งเป็นไฟเบอร์ชนิดที่สามารถละลายในน้ำได้ประเภทหนึ่ง เมื่อเบต้า กลูแคนเข้าสู่ร่างกายและถูกละลายในน้ำแล้ว จะแปรเปลี่ยนสภาพคล้ายกับเจล ซึ่งเบต้ากลูแคนนี้มีส่วนสำคัญในการช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงลำไส้ให้แข็งแรง และทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้นอีกด้วย
- ดีต่อการลดน้ำหนัก
ผู้ที่อยู่ระหว่างการควบคุมอาหาร หรือการลดน้ำหนัก จำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม ข้าวโอ๊ต เป็นหนึ่งในตัวเลือกดี ๆ สำหรับความต้องการนั้น เนื่องจากมี เบต้า กลูแคน (Beta-glucan) ที่ช่วยกระตุ้นการปล่อยเปปไทด์วายวาย (Peptide YY, PYY) ซึ่งเป็นฮอร์โมนในลำไส้ ทำหน้าที่ในการตอบสนองต่อการรับประทานอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มได้ง่ายขึ้นและนานขึ้น เมื่อรู้สึกอิ่มมากขึ้น ความอยากอาหารในมื้อต่อไปก็จะลดลง ทำให้ได้รับปริมาณแคลอรี่ในอาหารมื้อต่อไปน้อยลงอีกด้วย
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
เบต้า กลูแคนใน ข้าวโอ๊ต มีส่วนสำคัญในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เพราะเมื่อถูกลำเลียงไปยังกระเพาะอาหารแล้ว เบต้า กลูแคนจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นเจล ทำให้กระเพาะอาหารไม่ว่าง และชะลอการดูดซึมกลูโคส (Glucose) เข้าสู่ร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และยังช่วยรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย
- บรรเทาอาการท้องผูก
ผู้ที่ลำไส้ไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว มักจะประสบกับปัญหาท้องผูก ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่มักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่จากผลการวิจัยพบว่า การรับประทาน ข้าวโอ๊ต มีส่วนช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้ เนื่องจาก ข้าวโอ๊ต มีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์ในข้าวโอ๊ตจะช่วยให้ของเสียในระบบทางเดินอาหารสามารถเคลื่อนตัวได้ง่ายขึ้น และช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ทำให้กระบวนการลำเลียงอาหารดีขึ้น จึงช่วยลดอาการท้องผูกได้
- เหมาะสำหรับผู้มีอาการแพ้กลูเตน
ผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตน มักจะไม่สามารถรับประทานธัญพืชได้เท่าไหร่นัก เนื่องจากธัญพืชหลายชนิดมักจะมีกลูเตนรวมอยู่ด้วย แต่จากผลการวิจัยพบว่า ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่ปราศจากกลูเตน ผู้ที่มีอาการแพ้กลูเตนจึงสามารถรับประทานได้ มากไปกว่านั้น ผู้ที่เป็นโรคเซลิแอค (Celiac Disease) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการทางสุขภาพที่เกิดจากการแพ้กลูเตนในอาหาร ก็สามารถรับประทาน ข้าวโอ๊ต ได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน
วิธีปรุงโอ๊ตมีลเพื่อสุขภาพแบบง่ายๆ
ส่วนผสม
- ข้าวโอ๊ต (ที่บดรีดมาแล้ว) 2 ถ้วย
- น้ำสะอาด 1 ถ้วย (250 มิลลิลิตร)
- เกลือ ใช้เพียงหยิบมือ
วิธีทำ
- ผสม ข้าวโอ๊ต น้ำสะอาด และเกลือลงในกระทะ
- ตั้งไฟให้ร้อน เมื่อเริ่มเดือดให้เติมข้าวโอ๊ตอีก 1 ถ้วย ผัดไปมาประมาณ 5 นาที หรือจนกระทั่งข้าวโอ๊ตดูดซับน้ำจนหมด
- เพื่อให้ดีต่อสุขภาพ และได้รับสารอาหารมากขึ้น สามารถเพิ่มทอปปิ้งอื่นๆ ตามต้องการได้ เช่น ขิง ฟักทอง เนยถั่ว อัลมอนด์ วอลนัท หรือจะใส่เบอร์รีก็ได้เช่นกัน