ฝุ่น PM 2.5 กับอันตรายต่อ “ผิวหนัง” ที่คาดไม่ถึง

ฝุ่น PM 2.5 กับอันตรายต่อ “ผิวหนัง” ที่คาดไม่ถึง

ฝุ่น PM 2.5 กับอันตรายต่อ “ผิวหนัง” ที่คาดไม่ถึง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฝุ่น PM 2.5 ยังอยู่กับเราเรื่อยๆ ไม่ได้หายไปไหน และในบางช่วงอาจจะอันตรายมาก และไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายแค่จากการสูดดม แต่เพียงแค่สัมผัสกับผิวหนัง ก็เกิดให้อันตรายได้ด้วยเช่นกัน

พญ.กนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ระบุว่า ปัญหาผิวพรรณของเรา มีสาเหตุเกิดขึ้นได้จาก 2 ปัจจัยก็คือปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก ซึ่งปัจจัยภายในจะเกี่ยวข้องกับระบบของร่างกายเรา เช่น การรับประทานอาหาร ระบบขับถ่าย การพักผ่อน อารมณ์ และความเครียด ส่วนปัจจัยภายนอกที่คอยทำร้ายผิวสามารถแบ่งได้ 5 สาเหตุ ประกอบด้วย การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การอาบน้ำร้อน แสงแดด และมลพิษทางอากาศ แสงแดดและมลพิษทางอากาศถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำร้ายผิวได้รุนแรงกว่าเมื่อเทียบกับสาเหตุอื่นๆ 

ฝุ่น PM 2.5 กับอันตรายต่อผิวหนัง

ปัจจุบันโลกของเรามีแนวโน้มที่จะเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศมากขึ้น ยิ่งในช่วงนี้ประเทศไทยของเรากำลังประสบปัญหาเรื่อง ฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 นั้นมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่ารูขุมขนคนเราถึง 20 เท่า จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย และส่งผลกระทบกับผิวหนังโดยตรงขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้น และระยะเวลาการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ

  • ระยะเฉียบพลัน ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ระคายเคืองของผิว ทำให้ผิวเสียสมดุลความชุ่มชื้น เนื่องจาก PM 2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวชั้นนอก หรือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) และทำลายโปรตีนฟิลแลกกริน (Filaggrin) ที่มีหน้าที่ป้องกันผิวหนัง (epidermal barrier protein)

  • ระยะเรื้อรัง เกิดจากการสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เป็นระยะเวลานาน โดยฝุ่น PM 2.5 จะไปกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระรบกวนการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ ทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ

เคล็ดลับในการป้องกันและการดูแลผิว ให้ลดเสี่ยงอันตรายจากฝุ่น PM 2.5

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ให้มากที่สุดหรือสัมผัสให้น้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิต้านทานของผิวหนังน้อยหรือผู้ที่เป็นโรคผิวหนังอยู่แล้ว จะยิ่งต้องดูแลและป้องกันตัวเองให้มากเป็นพิเศษ ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว หมวก แว่นตา เพื่อปกปิดไม่ให้ผิวเราสัมผัสกับอนุภาคฝุ่น PM 2.5 ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นอีกขั้น

  2. ดูแลผิวเมื่อกลับถึงบ้าน รีบอาบน้ำชำระล้างผิวให้สะอาด ฟื้นฟูสภาพผิวด้วยผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ผิวสัปดาห์ละครั้ง โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี ประกอบด้วย จะช่วยเสริมให้สุขภาพผิวแข็งแรงขึ้น 

  3. สครับผิวเพื่อกระตุ้นกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพสัปดาห์ละครั้ง แนะนำให้เลือกแบบที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว

  4. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยมอยเจอร์ไรซิ่งครีม และเสริมเกราะป้องกันให้กับผิว ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งทำหน้าที่เสมือนเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบผิวกันไม่ฝุ่นสัมผัสกับผิวได้โดยตรง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน ไม่อุดตันรูขุมขน และมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ

  5. ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานต่อมลภาวะ เพราะเมื่อร่างกายเราอ่อนแอ เวลาที่ได้รับเชื้อโรคหรือฝุ่นเข้ามาก็จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย

  6. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งผัก ผลไม้

  7. งดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนมาออกกำลังในร่มแทน 

  8. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

  9. ดื่มน้ำสะอาดในระหว่างวันให้มากๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook