ลองไหม? ตรวจเบาหวานจากปัสสาวะด้วยตัวเอง
“เบาหวาน” โรคนี้เป็นกันได้ทุกเพศ ทุกวัย ทั้งจากพฤติกรรมการทานอาหารของตัวเอง และความเสี่ยงที่มากขึ้นจากพันธุกรรม แต่หลายคนอาจไม่มีเวลาตรวจสุขภาพเป็นประจำ จึงทำให้ขาดโอกาสในการทราบถึงความผิดปกติของสุขภาพตัวเองได้ทันท่วงที
หากเป็นอย่างนั้น ลองตรวจปัสสาวะด้วยตัวเองอาจจะสะดวกสำหรับบางคนที่ไม่มีเวลา หรือไม่สะดวกไปโรงพยาบาล ซึ่งขอบอกว่าวิธีตรวจง่ายมากๆ อุปกรณ์ก็ใช้ไม่มาก ราคาไม่แพง และเห็นผลชัดเจน เชื่อถือได้ ทำอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันค่ะ
ตรวจปัสสาวะ หาโรคเบาหวานด้วยตัวเอง
วิธีที่ 1 ต้ม “ปัสสาวะ”
อุปกรณ์
1. หลอดแก้ว หรือขวดแก้วทนไฟ
2. น้ำยาเบเนดิคท์ (หาซื้อได้ที่องค์การเภสัชกรรม หรือคลังยาบางแห่ง)
3. หลอดแก้วสำหรับหยดยา (หาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป) หรือหากหาไม่ได้ ใช้หลอดเล็กๆ ได้ค่ะ
4. ปัสสาะวะ ที่เพิ่งเก็บใหม่ๆ
วิธีตรวจปัสสาวะ
1. ใส่น้ำยาเบเนดิคท์ลงไปในหลอดแก้ว หรือขวดแก้วทนไฟ ประมาณ 1 ช้อนชา
2. หยดปัสสาวะลงไปในหลอดแก้ว ประมาณ 8 หยด เขย่าเบาๆ ให้เข้ากัน
3. ใส่หลอดแก้วลงไปแช่ในน้ำเดือด 5 นาที หรือลนไฟ 2 นาที จนสารข้างในเดือด
4. สังเกตสีที่เปลี่ยนไป
ถ้ามีสีน้ำเงิน = ไม่มีน้ำตาล
สีเขียว = มีน้ำตาล +1
สีเหลือง = มีน้ำตาล +2
สีส้ม = มีน้ำตาล +3
สีแสดแดง = มีน้ำตาลมากที่สุด คือ +4
วิธีที่ 2 เม็ดยาตรวจปัสสาวะ
ซื้อเม็ดยาตรวจปัสสาวะมาตรวจ โดยหยดปัสสาวะ 5 หยด ลงในน้ำเปล่า 10 หยด แล้วใส่เม็ดยาลงไป จะมีฟองฟู่ขึ้นมา รอจนฟองฟู่หมดแล้วค่อยสังเกตสีของสารที่เปลี่ยนไป คล้ายวิธีทดสอบกับน้ำยาเบเนดิคท์
วิธีที่ 3 แผ่นทดสอบปัสสาวะ
หากสามารถหาซื้อแผ่นทดสอบปัสสาวะได้ สามารถนำมาใช้ได้ง่ายๆๆ เพียงจุ่มกระดาษทดสอบลงไปในปัสสาวะ แล้วรอดูสีที่ปรากฏบนกระดาษ
ไม่ว่าจะทดสอบด้วยวิธีใด หากพบค่าน้ำตาลในปัสสาวะเป็นบวก คือ +1 ขึ้นไป ให้ลองทดสอบดูหลายๆ ครั้ง อาจจะเป็นปัสสาวะก่อนอาหาร หรือในตอนเช้า หากยังพบค่าบวกอยู่ตลอด อาจมีความเป็นไปได้สูงมากที่คุณจะเป็นโรคเบาหวานเข้าเสียแล้วล่ะค่ะ
หมายเหตุ
หากกำลังรับประทานยาบางชนิดอยู่ หรือกำลังตั้งครรภ์ อาจพบน้ำตาลในเลือดได้ โดยที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน ดังนั้นหากตรวจปัสสาวะด้วยตนเองแล้ว พบค่าบวกบ่อยๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย และให้แพทย์วินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้งค่ะ