คันตายิบๆ อาจเสี่ยง "ภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา"
ใครเคยมีอาการคันตา เป็นๆ หายๆ คันจนอยากเกาเข้าไปในลูกตา คุณอาจเสี่ยง “ภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา” Sanook Health มีข้อมูลจาก รศ.พญ.ภิญนิตา ตันธุวนิตย์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จาก Mahidol Channel มาฝากกัน
"ภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา" คืออะไร?
ภูมิแพ้เยื่อบุตา เป็นอาการของโรคภูมิแพ้ที่ก่อให้เกิดอาการที่เยื่อบุตา คล้ายกับอาการของโรคภูมิแพ้ในส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่ทำให้เกิดผื่นขึ้นตามผิวหนัง หรือคัดจมูกน้ำมูกไหล
ภูมิแพ้เยื่อบุตา ส่วนใหญ่จะต้องตรวจที่บริเวณเยื่อบุตาขาวทั้งด้านล่าง และด้านบน แพทย์อาจพบเยื่อบุตาแดง ตุ่มที่เยื่อบุตาขาวด้านล่างและด้านบน หรือถ้าอาการหนักอาจพบตุ่มที่รอบตาดำ เป็นต้น
ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ที่ส่วนอื่นๆ ในร่างกายอยู่แล้ว เช่น ภูมิแพ้อากาศ ภูมิแพ้ผิวหนัง ฯลฯ อาจมีความเสี่ยงต่อภูมิแพ้เยื่อบุตามากกว่าคนปกติ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้เยื่อบุตา
- ฝุ่นละอองต่างๆ ขณะทำความสะอาด
- มูลสัตว์ ชิ้นส่วนของแมลง เช่น ขี้แมลงสาบ ที่อาจลอยฟุ้งในอากาศขณะทำความสะอาด
- เชื้อราในช่องแอร์
- ไรฝุ่นจากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เช่น ผ้าม่าน ที่นอน หมอน ฯลฯ
อาการภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา
- คันตามากเป็นพิเศษ อยากขยี้ตาตลอดเวลา
- เยื่อบุในตาแดง
- พบเห็นเม็ดเล็กๆ ขนาดคล้ายเม็ดทรายอยู่ในตา
- อาจมีเมือกตาออกมาในตอนเช้า
- อาการเป็นๆ หายๆ
อันตรายของภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา
ภูมิแพ้ที่เยื่อบุตา ไม่ได้มีอาการรุนแรงถึงขั้นทำให้ตาบอด แต่ด้วยอาการเป็นๆ หายๆ และไม่ค่อยหายขาด อาจจะสร้างความรำคาญ สร้างความลำบากให้แก่การใช้ชีวิตประจำวัน
วิธีรักษาภูมิแพ้เยื่อบุตา
เมื่อพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอาการแล้ว แพทย์อาจสั่งยาหยอดตามาให้ใช้ มักจะไม่มีความจำเป็นต้องกินยา นอกจากนี้แพทย์จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ทั้งนี้ผู้ป่วยต้องสังเกตอาการของตัวเองด้วยว่ามีอาการเมื่อไร จากอะไร นอนพักผ่อนมากๆ และออกกำลังกายสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย