สมาคมโรคไตฯ เตือนผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรกิน "ถั่งเช่า"

สมาคมโรคไตฯ เตือนผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรกิน "ถั่งเช่า"

สมาคมโรคไตฯ เตือนผู้ป่วยโรคไต ไม่ควรกิน "ถั่งเช่า"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย แนะนำข้อมูลเกี่ยวกับ “การใช้ถั่งเช่ารักษาโรคไต” ชี้หากผู้ป่วยโรคไตซื้อถั่งเช่ามากินเอง นอกจากอาการอาจไม่ดีขึ้นแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาวได้

สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประชาชนเกี่ยวกับสรรพคุณของผลิตภัณฑ์จากถั่งเช่า ที่ผู้ป่วยโรคไตเข้าใจว่าสามารถรักษาโรคไตให้ดีขึ้น หรือกลับมาเป็นปกติได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวประชาชนสามารถซื้อหาได้โดยง่าย ในประเด็นนี้ สมาคมโรคไตแห่งประเทศไทย ขอยืนยันว่า จากองค์ความรู้ที่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปัจจุบัน ยังไม่มีข้อมูลที่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน ว่าถั่งเช่ามีประโยชน์จริงในผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากมีเพียงข้อมูลการศึกษาในสัตว์ทดลอง แต่ไม่มีหลักฐานการศึกษาที่ดีเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าถั่งเช่ามีประโยชน์กับไตในมนุษย์ และการศึกษาส่วนใหญ่ไม่ได้รายงานอาการ ไม่พึงประสงค์ของถั่งเช่าอีกด้วย

ถั่งเช่าที่มีการศึกษาในมนุษย์ส่วนใหญ่เป็นถั่งเช่าทิเบต (Cordyceps sinensis) ที่เกิดในธรรมชาติ ซึ่งมีราคาสูงมาก การศึกษาส่วนใหญ่ใช้ระยะเวลาเพียง 1-6 เดือนเท่านั้น จึงไม่สามารถทราบถึงผลดีและผลเสียในระยะยาวได้ และยังพบว่าผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าทิเบตบางส่วนพบมีโลหะหนัก Arsenic ในปริมาณสูง ซึ่งอาจมีผลเสียต่อไตในระยะยาว 

ในปัจจุบันถั่งเช่าที่ขายอยู่ส่วนใหญ่เป็นถั่งเช่าสีทอง (Cordyceps militaris) ที่ถูกเพาะเลี้ยงขึ้นในฟาร์ม โดยใช้อาหารเลี้ยงแบบต่างๆ ทําให้ถั่งเช่าแต่ละชนิดที่ถูกเพาะเลี้ยงในแต่ละวิธี ผลิตสารออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันมาก และส่วนใหญ่ยังไม่มีการศึกษาทดลองในมนุษย์ การนํามาใช้จึงอาจทําให้เกิดโทษต่อผู้ป่วยโรคไตได้ เนื่องจากไตเป็นอวัยวะที่สามารถเกิดอันตรายจากการใช้ยาและสารต่างๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับขนาดที่เหมาะสมของถั่งเช่าในผู้ป่วยโรคไต นอกจากนี้ยังมีอุบัติการณ์ที่แพทย์โรคไตในประเทศไทยพบการเสื่อมของไตภายหลัง การรับประทานถั่งเช่าในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอีกด้วย

ดังนั้นหากผู้ป่วยโรคไตท่านใดมีความประสงค์หรือสนใจที่รับประทานจริงๆ ควรแจ้งความประสงค์ต่อแพทย์ที่กำลังให้การรักษาท่านอยู่ และไม่ควรหยุดรับประทานยาแผนปัจจุบันที่กำลังรับประทานอยู่ การรักษาที่ดีที่สุดคือการดูแลปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม เพื่อชะลอการเสื่อมของไตให้ช้าที่สุด รวมทั้งหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เกิดความเสี่ยงต่อไตทั้งหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook