เป็น "ริดสีดวงทวาร" เสี่ยง "มะเร็งลำไส้ใหญ่" จริงหรือ?
ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง “เป็นริดสีดวงมีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่” กรมการแพทย์ โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า การเป็นโรคริดสีดวงไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่
ริดสีดวง คืออะไร?
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ริดสีดวงเป็นโรคที่เกิดจากเส้นเลือดดำทวารหนักหรือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่มีการบวมพองยื่นนูนเป็นติ่งออกมาจากทวารหนัก สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ริดสีดวงภายใน เกิดบริเวณเนื้อเยื่อทวารหนักที่อยู่สูงกว่าระดับหูรูดทวารหนัก และริดสีดวงภายนอก เกิดบริเวณทวารหนักส่วนล่างมีอาการนูนเป็นติ่งออกจากทวารหนัก
ริดสีดวงทวาร เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่?
อย่างไรก็ตาม โรคริดสีดวงไม่ได้เป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ อาหารกากใยน้อย อาหารปิ้งย่างรมควัน การรับประทานเนื้อแดง เนื้อแปรรูปเป็นประจำ ตลอดจนขาดการออกกำลังกาย การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า อาการของโรคที่พบบ่อย ได้แก่
- การถ่ายอุจจาระมีมูกปนเลือดหรืออาจถ่ายเป็นเลือดสดๆ
- มีอาการท้องผูกสลับท้องเสีย
- ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง/ถ่ายไม่สุด
- ขนาดของลำอุจจาระเล็กลง
- มีอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด จุกเสียด
เป็นต้น
วิธีลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
แม้ว่ามะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงจะเป็นโรคที่น่ากลัว แต่ก็ถือว่าเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ เพียงแค่เราหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการและมีความหลากหลาย หมั่นสังเกตตัวเองว่าการขับถ่ายเป็นปกติดีหรือไม่ หากพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์ นอกจากนี้ มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรงยังสามารถตรวจคัดกรองตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ทำให้การรักษาได้ผลดีและเสียค่าใช้จ่ายน้อย