"วัคซีน" มีประโยชน์ หรือแฝงอันตราย?

"วัคซีน" มีประโยชน์ หรือแฝงอันตราย?

"วัคซีน" มีประโยชน์ หรือแฝงอันตราย?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แน่นอนว่าคนจำนวนมากบนโลกต้องเคยได้รับวัคซีนคนละเข็มสองเข็ม เพื่อสุขภาพที่ดี ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อที่สามารถระบาดได้ง่ายๆ ในเมืองไทยก็มีวัคซีนหลายตัวที่ทางกระทรวงสาธารณสุขแจกจ่ายให้แก่เด็กๆ ฟรี เช่น โปลิโอ บาดทะยัก ไอกรน ไวรัสตับอักเสบบี แต่กลับมีคนบางกลุ่มที่ก่อตัวขึ้นเป็นกลุ่มต่อต้านวัคซีน ทำไมถึงมีความคิดเช่นนั้น Sanook! Health นำคำตอบจากคุณหมอเพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว มาฝากกันค่ะ

 

__________

ทำไมคนบางคนจึงมีแนวคิดเชื่อว่าไม่ฉีดวัคซีนดีกว่า

หลังจากคุยเรื่องผลเสียที่เกิดจากการไม่ฉีดวัคซีนมาหลายวัน บางคนอาจจะมองว่าผู้ที่ไม่ฉีดนี่คือเห็นแก่ตัวใช่ไหม

ความจริงคือไม่ใช่เสียทีเดียว จริงๆแล้วมันมีมุมมองที่ลึกไปกว่านั้น เพราะเหตุผลในการไม่เอาวัคซีนในแต่ละคนแตกต่างกันไป

บางอันคือความเชื่อที่เกิดขึ้นเองของเขา ... และบางอันคือความเชื่อที่คนที่ "เชื่อ" ในวัคซีนรวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ ทำให้เขาไม่เชื่อในวัคซีน

เรามาดูกันไปทีละแบบครับ

1. กลัวผลข้างเคียงของวัคซีน , มีคนรู้จักหรือแม้แต่ประสบกับสิ่งที่ตน "เชื่อ" ว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีน

ผลข้างเคียงจริงของวัคซีนที่เจอบ่อยๆคือ มีแผลเข็มฉีดยา ปวดกล้ามเนื้อในตำแหน่งฉีด หรือมีไข้สูงในวัคซีนบางชนิด

ผลข้างเคียงที่เจอได้น้อยแต่ซีเรียสก็เช่นแพ้ยา (เจอที่ระดับ 1 ใน 5แสน ถึง 1 ในล้าน)

หรือที่เจอน้อยแต่ซีเรียสก็เช่น ภาวะทางระบบประสาท ที่เจอน้อยมากแต่ว่าน่ากลัว

เจอไม่บ่อย เจอน้อย เทียบตัวเลขกันแล้ว ถ้าไม่ฉีดวัคซีนโอกาสตายมากกว่าเห็นๆ ... จนทำให้บางครั้งหลายคนไปพูดว่าวัคซีนไม่มีผลข้างเคียง

ปัญหาคืออะไร

ปัญหาคือ ผลข้างเคียงที่เกิดจากวัคซีนจริงๆ ไม่เท่ากับผลข้างเคียงที่ผู้ปกครองเชื่อว่าเกิดจากวัคซีน

เช่นพาเด็กที่มีไข้สูงจะไปฉีดวัคซีน แล้วเด็กชัก ก็ระบุว่าเป็นชักจากวัคซีน ... ทั้งที่บางครั้งยังไม่ได้ฉีด

เด็กฉีดวัคซีนแล้วหลังจากนั้น2สัปดาห์ไข้สูง ก็บอกว่าเป็นจากวัคซีน ... ตรวจออกมาเป็นไข้หวัดใหญ่

สุนัขกัดมา แผลติดเชื้อหนองเต็มไปหมด ฉีดวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าอยู่ ก็บอกว่าติดเชื้อเพราะฉีดวัคซีน

หรืออย่างในต่างประเทศ มีกรณีที่ฉีดวัคซีนแล้วเด็กดูพัฒนาการช้า พิสูจน์ชัดเจนว่าเป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้สมองผิดปกติ ... แต่แม่ไม่เชื่อ ไปเชื่อว่าหมอร่วมมือกับบริษัทยาแต่งเรื่องเมคผลทั้งหมด ... สุดท้ายแม่กลายเป็นผู้ต่อต้านวัคซีนคนสำคัญ

ผู้ที่สูญเสียลูกในช่วงขวบปีแรก ... ความเศร้าที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นจะมหาศาลมากจนทำให้พยายามหาเหตุผลมารองรับ ซึ่งขวบปีแรกจะเป็นช่วงที่ฉีดวัคซีนทุก1-2เดือน ดังนั้นมีโอกาสสูงที่จะมองว่าความสูญเสียนั้นเกิดจากวัคซีน

การแก้ปัญหาคือ ... ก่อนจะฉีด สอบถามสักนิด ป่วยอะไรอยู่ไหม มีอาการผิดปกติอะไรหรือเปล่า ฉีดแล้วต้องดูอะไร ผลข้างเคียงที่อาจมีคืออะไร(บางตัวมีไข้สูงได้ เด็กร้องกวนได้) ถ้าผิดปกติต้องมาตรวจใหม่

ถ้าเกิดมีอาการผิดปกติภายหลัง อย่าเพิ่งไปตัดบทว่าไม่มีทางเป็นผลจากวัคซีนแม้ว่ามันจะฟังดูประหลาดแค่ไหน (เช่นบอกว่าลูกเรียนไม่เก่ง สงสัยเป็นเพราะฉีดวัคซีนเมื่อ 15 ปีก่อน) ... บางอย่างมันไม่ใช่จริงๆแหละ แต่การบอกว่าไม่ใช่ จะทำให้คนบางคนไม่เชื่อในความจริงอีกเลย

 

2. เชื่อว่าวัคซีนไม่ได้ผลจริง

วัคซีนช่วยป้องกันโรคได้ แต่ไม่ 100% .... เพราะภูมิคุ้มกันของคนเราไม่เหมือนกัน

บางอย่าง ฉีดแล้วอยู่ไปตลอดชีวิต แต่วัคซีนบางอย่างต้องฉีดหลายเข็ม

บางชนิด ฉีดไปแล้วป้องกันได้เกือบ100%แต่ 4-5 ปีก็เริ่มลดต่ำต้องฉีดกระตุ้นใหม่

บางชนิด เชื้อเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ต้องฉีดกระตุ้นใหม่ เช่นไข้หวัดใหญ่ ... แถมปีไหนเชื้อตัวใหม่ระบาดก็ไม่ได้ผล

บางชนิด ป้องกันได้แค่ 50-60% ตั้งแต่แรก ... แต่เราก็ยังให้ เพราะมันดีกว่าไม่มีอะไรป้องกันเลย

ยังไม่นับว่าบางคนภูมิต้านทานไม่ดี บางครั้งวัคซีนล็อตนั้นมีปัญหา

การไปบอกว่าชัวร์ 100% ฉีดแล้วไม่เป็นแน่นอนล้าน% (ซึ่งมันไม่จริง) พอมีคนเป็นขึ้นมา คนก็พาลมองว่าวัคซีนไม่ได้ผล

 

3. ทฤษฎีสมคบคิด / ความเชื่อส่วนบุคคล

วัคซีนคือสิ่งที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่ามีประโยชน์สูง ... ผ่านการทดสอบทางกาลเวลาแล้วว่ารักษาชีวิตคนไว้ได้มหาศาล บางโรคที่ตายปีละหลายแสนหลายล้านคน

พอประโยชน์ชัดเจนจนไม่มีข้อโต้แย้ง ก็เลยบังคับฉีด

การบังคับ เป็นเหมือนการทำให้คนเลือกไม่ได้ เป็นเหมือนสิ่งจำกัดเสรีภาพของคน จึงเป็นตัวกระตุ้นให้คนบางคนเชื่อว่ามันผิดปกติ เป็นที่มาของทฤษฎีสมคบคิด ไม่ว่าจะเรื่องเงิน เรื่องบริษัทยา มนุษย์ต่างดาว ฯลฯ

พอปักธงไว้แล้วว่าวัคซีนไม่จริง ที่เหลือก็คือการหาข้อมูลมาเติมเต็ม

(เราจะไม่นับคนที่ได้ผลประโยชน์จากการกระจายความเชื่อนี้)

บางคนมีความเชื่อในความงดงามของธรรมชาติ ไม่อยากให้ใช้ยา ไม่อยากให้ใช้วัคซีน และมองว่าการที่เด็กติดโรคจากธรรมชาติและตายไป คือการทำให้สายพันธุ์มนุษย์เข้มแข็งขึ้น

 

ในชีวิตจริง คนกลุ่มที่ 3 น้อยมาก แต่จะเป็นแกนหลักในการทำให้คนไปเชื่อ คนสองกลุ่มแรกมีเยอะมากกว่า

เป็นหน้าที่ของคนที่มีความรู้ด้านการแพทย์ ต้องทำให้คนเกิดความมั่นใจ

พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดในการป้องกันเด็กส่วนใหญ่ ไม่ให้เสี่ยงติดโรคจากผู้ที่ไม่ฉีด ... โดยหาทางออกที่ไม่เป็นการกีดกันคนที่ไม่ฉีดจนเกินไป

และเมื่อเค้าเกิดความสูญเสียจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด จากการไปเชื่อทฤษฎีสมคบคิดนั้น ก็จงอย่าละทิ้่งเขา แต่ต้องดึงเค้ากลับมา”

__________

 

 

ทำไมคนบางคนจึงมีแนวคิดเชื่อว่าไม่ฉีดวัคซีนดีกว่า หลังจากคุยเรื่องผลเสียที่เกิดจากการไม่ฉีดวัคซีนมาหลายวัน บางคนอาจจะมอ...

Posted by ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว on Wednesday, February 24, 2016

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊คเพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
ภาพประกอบจาก istockphoto

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook