ทำไม "ยาอมแก้เจ็บคอ" ที่มี "ยาต้านแบคทีเรีย" ถึงอันตราย?
เจ็บคอเมื่อไร เลี่ยงยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อนั้น อาการเจ็บคอจากการเป็นไข้หวัด สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องกินยาเสมอไป เพราะนาอมแก้เจ็บคอที่มียาต้านแบคทีเรีย หรือยาแก้อักเสบ อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
ส่วนประกอบของยาอมแก้เจ็บคอ ที่มียาปฏิชีวนะเป็นส่วนประกอบ
ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอบางชนิด มียาปฏิชีวนะ (ยาต้านแบคทีเรีย) เป็นส่วนประกอบ
- นีโอมัยซิน
- แบซิเทรซิน
- ไทโรทริซิน
ยาอมเหล่านี้มียาชาเป็นส่วนประกอบ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้ชั่วขณะ แต่ยาปฏิชีวนะที่ผสมอยู่เป็นยาส่วนเกิน เพราะไม่มีผลในการรักษาอาการเจ็บคอให้หายเร็วขึ้น
เจ็บคอแบบไหน ควรกินยาชนิดใด
เจ็บคอจากการติดเชื้อไวรัส
ยาปฏิชีวนะ เป็นยาต้านแบคทีเรีย ไม่มีผลต่อการฆ่าเชื้อไวรัส จึงไม่ควรใช้ยาผมที่ผสมยาปฏิชีวนะ
เจ็บคอจากแบคทีเรีย
ยาปฏิชีวนะในยาอมไม่สามารถขจัดแบคทีเรียที่คอ หรือต่อมทอนซิลให้หมดไปใด้ จึงไม่ควรใช้ยาอมที่ผสมยาปฏิชีวนะ
ยาปฎิชีวนะ เสี่ยงทำให้ดื้อยา
หากเรากินยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ กินยาโดยไม่จำเป็น ยาปฏิชีวนะที่ถูกกลืนลงสู่ทางเดินอาหาร จะสัมผัสโดนแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้ใหญ่ แบคทีเรียปกติก็จะถูกกระตุ้นให้กลายเป็นเชื้อดื้อยา
ข้อควรทราบ เกี่ยวกับยาแก้เจ็บคอ
ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขได้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอที่มียาปฏิชีวนะเป็นส่วนประกอบทุกตำรับ โดยประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 19 มีนาคม 2564