อาหารช่วยป้องกัน "ความดันโลหิตสูง" ที่ชาวญี่ปุ่นแนะนำ
เลือดหนืดข้นและการไหลเวียนเลือดไม่ดี เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดความดันโลหิตสูง มาดูสาเหตุที่ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี และดูว่ามีอาหารอะไรบ้างที่คนญี่ปุ่นแนะนำว่าควรรับประทานบ่อยๆ เพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีและช่วยป้องกันความดันโลหิตสูงได้
สาเหตุที่ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี
การดำเนินชีวิตประจำวันที่ขาดความสมดุล เช่น การรับประทานอาหารรสหวานและเค็มจัด การสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชอบรับประทานอาหารทอด ไม่รับประทานผักผลไม้ ไม่ออกกำลังกาย และมีความเครียดสะสมตลอดเวลา เป็นต้น ส่งผลให้เกิดปัญหาดังนี้คือ
- มีไขมันส่วนเกินเข้าไปอุดตันในหลอดเลือด
- มีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูง น้ำตาลจะเข้าไปจับกับโปรตีนและเกิดปฏิกิริยาไกลเคชัน ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตของปฏิกิริยา เรียกว่า Advanced glycation end products หรือ AGEs ขึ้นมา ผลผลิต AGEs นี้เป็นตัวการเข้าไปทำให้เกิดการอักเสบผนังหลอดเลือด
- สารอนุมูลอิสระที่เกิดจากความเครียดและการสูบบุหรี่ ไปทำให้เกิดบาดแผลที่ผนังหลอดเลือด เป็นต้น
เมื่อผนังหลอดเลือดอักเสบหรือเป็นแผลก็จะมีกระบวนการซ่อมแซมแผลที่ผนังหลอดเลือด และเกิดการจับตัวของเกล็ดเลือดกลายเป็นลิ่มเลือด ทั้งไขมันและลิ่มเลือดจะไปอุดกั้นในหลอดเลือด ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี เมื่อการไหลเวียนเลือดไม่ดีก็จะส่งผลให้ความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเกิดนานเข้าก็จะทำให้เกิดความดันโลหิตสูง
อาหารที่คนญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานเพื่อช่วยให้การไหลเวียนเลือดดี
- หอมใหญ่
หอมใหญ่มีสารเควอเซทินในปริมาณที่สูง สารชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ และช่วยลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดด้วย มีสารอัลลิลซัลไฟด์ที่ช่วยละลายลิ่มเลือดซึ่งจับตัวอุดกั้นทางเดินเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และมีสารอัลลิซินที่ช่วยลดปริมาณไขมันและความข้นของเลือด เป็นต้น การรับประทานหอมใหญ่วันละครึ่งหัวจะมีประสิทธิภาพในการลดและป้องกันความดันโลหิตสูงได้ดี
- มะนาวเหลืองหรือเลมอน
มะนาวเหลืองมีกรดซิตริกสูง กรดชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดี การรับประทานน้ำมะนาววันละ 20-40 มิลลิลิตร จะทำให้ได้รับกรดซิตริกประมาณ 2 กรัม ซึ่งปริมาณนี้จะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้ดี อีกทั้งมะนาวเหลืองยังมีวิตามินซีสูง ซึ่งได้มีผลการวิจัยชี้ชัดว่าวิตามินซีช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้มะนาวเหลืองยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม ซึ่งช่วยขับเกลือส่วนเกินอันเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูงออกจากร่างกาย
- กล้วย
นอกจากจะมีเส้นใยอาหารสูงแล้ว กล้วยยังเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งช่วยขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย อีกทั้งยังมีแมกนีเซียมในปริมาณที่สูง แมกนีเซียมจะช่วยให้การไหลเวียนเลือดดี ช่วยทำให้ความดันเลือดคงที่ และช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูก โดยได้มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการรับประทานกล้วยวันละ 1 ผลจะช่วยลดความดันโลหิตและทำให้การไหลเวียนเลือดดี
- นัตโตะ
นัตโตะเป็นผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองหมักที่มีลักษณะเป็นเมือกหนืดและมีกลิ่นรุนแรง อย่างไรก็ดี ในเมือกที่หนืดนั้นอุดมไปด้วยเอนไซม์นัตโตะไคเนส (Natto Kinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ออกฤทธิ์สลายลิ่มเลือด หรือไฟบรินที่เกิดในหลอดเลือดอันเป็นสาเหตุของการอุดกั้นการไหลเวียนเลือด นอกจากเอนไซม์นัตโตะไคเนสแล้ว นัตโตะยังอุดมไปด้วยกรดแพนโทเธนิคหรือวิตามินบี 5 ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยเสริมการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ช่วยลดความเครียด ช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือดและช่วยทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เป็นต้น ปริมาณนัตโตะที่คนญี่ปุ่นแนะนำให้รับประทานเพื่อป้องกันและลดความดันโลหิตสูงคือ วันละ 1 แพ็ค
- ปลาที่มีไขมันสูง
ปลาเนื้อสีน้ำเงินหรือปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาซาบะ ปลาทู ปลาทูแขก ปลาทูน่า และปลาซาร์ดีน เป็นต้น อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งประกอบไปด้วย EPA (Eicosapentaenoic acid) และ DHA (Docosahexaenoic acid) EPA ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ในเลือด ทำให้ลดภาวะหลอดเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ
ส่วน DHA นั้นเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับสมองและเส้นประสาท ร่างกายคนเราไม่สามารถสร้างกรดไขมันโอเมก้า-3 จึงต้องรับเข้ามาจากการรับประทานอาหารพวกปลา โดยปริมาณที่จำเป็นสำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไปคือ วันละ 1.8-2.2 กรัม ซึ่งวัดปริมาณง่ายๆ จากปลาซาร์ดีน 1 ตัว ปลาทูแขก 2/3 ตัว และปลาซาบะหั่นเป็นชิ้นสำหรับ 1 คน ซึ่งให้ปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 ประมาณ 3.8 กรัม 1 กรัม และ 1.9 กรัม ตามลำดับ สำหรับการนำมารับประทานนั้นควรเป็นวิธีการปรุงที่ไม่ใช้น้ำมันหรือเติมน้ำตาลเป็นส่วนผสมในเครื่องปรุงมากเกินไป
นอกจากจะเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว อาหารดังกล่าวยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและลดความดันโลหิตสูงได้ดี ทั้งนี้ก็ควรละ ลด และเลิกพฤติกรรมที่เป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูงด้วยนะคะ ขอให้เพื่อนๆ มีสุขภาพแข็งแรงกันทุกคน