สีของ "ปัสสาวะ" บอกอะไรเราได้บ้าง?
มีใครเคยสังเกตสีของปัสสาวะตัวเองไหมว่าเวลาเราปัสสาวะออกมา สีปัสสาวะของเราจะเป็นสีอะไร? หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าสีของปัสสาวะนั้นสามารถบอกข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของคุณได้ ซึ่งทุกครั้งที่เราปัสสาวะออกมา ส่วนมากสีของปัสสาวะก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุของการทานยา การรับประทานอาหาร หรือมีปัญหาสุขภาพ
บางครั้งสีของปัสสาวะสามารถช่วยวินิจฉัยสภาพร่างกายของคุณในขณะนั้นได้ โดยเฉพาะในการประเมินการทำงานของไต เพราะปัสสาวะเป็นสิ่งที่ขับถ่ายออกมาจากร่างกาย โดยไตจะกรองเอาของเสียและสิ่งที่มากเกินออกจากเลือด และขับออกมาเป็นปัสสาวะ ถ้าไตไม่ทำงาน จะมีของเสียคั่งในเลือด ทำให้เกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ เช่น เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียน เป็นต้น
ต้องบอกก่อนว่าสีจริงๆของปัสสาวะจะมีสีเหลืองอ่อนๆ มีความใส ไม่ขุ่น คุณลองสังเกตดูว่าถ้าคุณยิ่งดื่มน้ำมากเท่าไร สีของปัสสาวะก็จะยิ่งมีความใสมากเท่านั้น แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองนั้นดื่มน้ำมาเยอะมากแล้ว แต่สีของปัสสาวะยังเป็นสีเหลืองอ๋อยอยู่ อีกกรณีถ้าดื่มน้ำน้อยแต่สีของปัสสาวะนั้นมีความใส นั่นแสดงว่าอาจจะมีความผิดปกติบางอย่างเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพแล้วนั่นเอง
วันนี้ทีม INN จะมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับสีของปัสสาวะกัน อยากรู้ไหมว่าสีไหน มีความหมายว่าอย่างไร ไปอ่านกันเลย
1. สีใส หรือ ไม่มีสี
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีใสหรือไม่มีสี แสดงว่าในแต่ละวันคุณดื่มน้ำเยอะมาก ทำให้ระดับเกลือแร่ในร่างกายนั้นต่ำเกินไป แต่ถ้าสีของปัสสาวะของคุณเป็นสีใสแค่บางครั้งบางคราวนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในกรณีที่ไม่ได้ดื่มน้ำมาก แต่สีปัสสาวะก็ยังคงมีสีใสนั้นอาจะบ่งบอกถึงโรคบางอย่างในตัวคุณได้ เช่น โรคไต โรคเบาหวาน เป็นต้น
2. สีเหลืองเข้ม
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีเหลืองเข้ม แสดงว่าปกติ คุณอาจจะแค่ดื่มน้ำน้อยไปนั่นเอง เพราะฉะนั้นในแต่ละวันคุณควรหมั่นดื่มน้ำให้มากขึ้น
3. สีเหลืองสด
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีเหลืองสดหรือสีเหลืองนีออน แสดงว่าก่อนหน้านี้คุณได้รับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินนั่นเอง ซึ่งการปัสสาวะสีนี้ออกมานั้นไม่ได้เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย เพียงแค่บางทีคุณอาจจะรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามินที่มากเกินกว่าที่ร่างกายของคุณต้องการ เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำว่าคุณควรจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะรับประทานอาหารเสริม
4. สีขาวขุ่น
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีข่าวขุ่น แสดงว่าคุณอาจจะดื่มนมในปริมาณที่มากเกินไปจนทำให้เกิดผลึกของฟอสเฟตหรือเกิดจากโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคกรวยอักเสบ รวมถึงอาจเกิดจากการมีน้ำเหลืองปะปนอยู่ในปัสสาวะ
5. สีส้ม
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีส้ม แสดงว่าร่างกายของคุณนั้นอาจจะขาดน้ำ บางทีอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี หรืออาจจะเกิดจากการที่คุณรับประทานวิตามินซี วิตามินบี 2 หรือแครอทที่เป็นจำนวนมาก ต้องบอกก่อนว่าตัวยาบางชนิดจะทำให้ปัสสาวะเป็นสีส้มได้ เช่น ยาซัลฟาซาลาซีน ยาฟีนาโซไพริดีน ยาไอโซไนอาซิด ยาระบายบางชนิด เป็นต้น
6. สีส้มเข้มหรือสีน้ำตาล
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีส้มเข้มหรือสีน้ำตาล แสดงว่าสาเหตุมาจากการขาดน้ำอย่างรุนแรง เป็นดีซ่าน มีภาวะกล้ามเนื้อลายสลาย (Rhabdomyolysis) นอกจากนี้ยาบางชนิดยังทำให้ปัสสาวะของคุณมีสีน้ำตาลได้ เช่น ยาเมโทรนิดาโซลที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรีย หรือยาควีนินที่ใช้ป้องกันโรคมาลาเรีย
7. สีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ แสดงว่าคุณอาจจะรับประทานถั่วบางชนิดในปริมาณที่มากเกินไป รวมถึงผักรูบาร์บ และว่านหางจระเข้ อีกกรณีอาจจะเป็นการแสดงถึงโรคบางชนิดได้ เช่น โรคตับ โรคมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยา เช่น ยาควีนินซึ่งใช้ป้องกันโรคมาลาเรีย ยาปฏิชีวนะเมโทรนิดาโซล
8.สีชมพูและสีแดง
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีชมพูและสีแดง แสดงว่าในปัสสาวะของคุณอาจะมีเลือดที่เจือปนอยู่ หรืออาจจะเป็นสัญญาณเตือนของโรคต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โรคนิ่วในไต โรคไต เนื้องอกหรือมะเร็งที่ไต กระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมาก รวมถึงการกินอาหารบางชนิด เช่น บลูเบอร์รี่ รูบาร์บ บีทรูท หรือหลังการออกกำลังกายอย่างหนักที่ทำให้คุณเกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ซึ่งในกรณีนี้ก็จะไม่เป็นอันตรายใดๆ
9. สีเขียว
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีเขียว แสดงว่าคุณอาจจะรับประทานบางอย่างเข้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น แอสพารากัส หรือที่รู้จักกันดีในชื่อหน่อไม้ฝรั่ง หรืออีกกรณีอาจจะเกิดจากที่คุณได้รับยาบางชนิด เช่น ยาสลบ เมทิลีนบลู อะมิทริปไทลีน หรืออินโดเมธาซิน รวมถึงสีผสมอาหารสีเขียวที่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะของคุณเป็นสีเขียวได้ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะได้อีกด้วย
10. สีฟ้า
ถ้าคุณปัสสาวะออกมาเป็นสีฟ้า แสดงว่าอาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิกที่หายากซึ่งทำให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ (familial hypercalcemia หรือ blue diaper syndrome) หรือเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากยาหรือสีผสมอาหารสีน้ำเงิน เช่น ยาแก้ปวดอินโดเมทาซิน ยารักษาอาการซึมเศร้าอะมิทริปไทลีนและยายับยั้งการหลั่งกรดไซเมทิดีนและยาระงับความรู้สึกโปรโพฟอล เป็นต้น
และนี่ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับสีของปัสสาวะที่ทางทีม INN ได้นำมาฝากทุกคนกัน เราอยากแนะนำให้ทุกคนลองสังเกตสีของปัสสาวะตัวเองว่ามีสีเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ถ้าเมื่อไรที่คุณรู้สึกว่าสีของปัสสาวะมีความผิดปกติจนทำให้รู้สึกกังวล แนะนำให้ควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด