หยุดความเชื่อผิดๆ ห้ามทำเวลาถูก "งูกัด"
ถูกงูกัด ต้องเอาเชือกรัด ต้องทำขันชะเนาะ เอาปากดูดพิษออกมา หากคุณยังมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัวหรือถูกสอนมาแบบนี้ หยุดคิดแบบนี้เลยนะทุกคน เพราะถ้าคิดแล้วทำแบบนั้นไปจะต้องเกิดอันตรายมากๆต่อตัวผู้ถูกกัดและตัวคุณเอง ว่าแต่วิธีที่ถูกต้องนั้นจะต้องทำอย่างไร วันนี้ทีม INN ได้หาคำตอบมาให้แล้ว เตรียมตัวไว้ เข้าใจถูกต้อง เพิ่มโอกาสรอดชีวิต ไปอ่านกันได้เลย
ความเชื่อในการปฐมพยาบาลผู้ถูก "งูกัด" แบบผิดๆ
ปรับพื้นฐานกันสักนิด งูนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือมีพิษกับไม่มีพิษ แต่สำหรับประชาชนทั่วไปแบบเราๆ ไม่ว่าจะถูกงูชนิดไหนกัด ก็ควรที่จะรับการรักษาเหมือนกันเพื่อความปลอดภัยมากที่สุด
ความเชื่อที่เราได้ยินกันมานั้นคือให้ทำการเอาเชือกรัดเหนือแผลที่ถูกงูกัดหรือขันชะเนาะ หลังจากนั้นดูดพิษออกเพื่อกันพิษแล่นสู่หัวใจ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการรัดนอกจากจะไม่ช่วยอะไรแล้ว หากรัดแน่นเกินไปอาจทำให้เกิดเนื้อเน่าตายได้
ส่วนการดูดพิษออกก็เป็นอันตรายต่อผู้ที่ดูดอาจจะได้รับพิษ ส่วนผู้ที่ถูกดูดอาจจะติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
ถูก "งูกัด" ควรทำอย่างไร
ข้อมูลจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยแนะนำว่า
- เมื่อถูกงูกัดให้ตั้งสติ
- สังเกตลักษณะของงู หรือถ่ายรูปงูถ้าทำได้
- ขอความช่วยเหลือ
- ไม่แนะนำให้ขันชะเนาะ (เพิ่มเติมข้อมูล ใช้น้ำสะอาดล้างบริเวณที่ถูกกัด)
- รีบพาไปที่โรงพยาบาลให้เร็วที่สุด ขยับส่วนที่ถูกกัดให้น้อย (เพิ่มเติมข้อมูล อาจจะใช้วิธีดามเพื่อลดการขยับ) เพื่อลดการดูดซึมของพิษงู
- หากงูเห่าพ่นพิษเข้าตา ล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมาก