ชวนฟังเหตุผลของอาหนิง นิรุตติ์ เมื่อตัดสินใจฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อตัวเองหรือเพื่อใคร
“นี่นั่งพักมา 30 นาทีแล้ว ไม่มีอาการอะไร แค่ปวดนิดๆ ตอนที่ยาเข้าไปในร่างกาย รู้สึกไม่ต่างจากการฉีดวัคซีนอื่นๆ ทั่วไป”
‘อาหนิง’ คุณนิรุตติ์ ศิริจรรยา นักแสดงชื่อดังบอกกับเราด้วยน้ำเสียงกระฉับกระเฉง หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่สถาบันบำราศนราดูร ในวันนี้อาหนิงอยู่ในวัย 74 ปีที่ยังแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวอะไรนอกจากอาการภูมิแพ้อากาศที่เป็นมาเนิ่นนาน
อย่างไรก็ตาม อาหนิงถือเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจากเชื้อโควิด-19 เพราะจากข้อมูลทั้งในและต่างประเทศพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุหากติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงที่จะป่วยรุนแรง หรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยประเทศไทยนั้นมีผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 13 ล้านคน วัคซีนจึงถูกจัดสรรให้ผู้สูงวัยเป็นประชากรกลุ่มแรก ๆ เพื่อป้องกันการสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะแม้ที่ผ่านมา เราจะช่วยกันสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือจนกลายเป็นชีวิตวิถีใหม่ แต่ก็พบว่า การเอาชนะเชื้อโควิด-19 ไม่ใช่เรื่องง่าย จนทุกประเทศเห็นพ้องว่า ต้องมีวัคซีนเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ
ดังนั้นเมื่อมีการเปิดลงทะเบียนรับวัคซีน อาหนิงจึงตัดสินใจลงทะเบียนในหมอพร้อมทันที ซึ่งอาหนิงได้ให้เหตุผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้ไว้ว่า
“ความจริงผมคิดว่า โควิดเสี่ยงกับคนทุกวัยเท่ากัน เพราะวิกฤติโควิดเปรียบเหมือนเวลามีสงคราม สงครามที่อันตรายกับทุกคน อาจต่างกันตรงที่โควิดเป็นศัตรูที่มองไม่เห็น เลยอันตรายยิ่งกว่า ผมเลยรู้สึกว่า เป็นหน้าที่ที่ต้องช่วยกัน
อีกอย่างผมรู้ว่า ทุกคนเป็นห่วงหมอ สงสารบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานหนัก เพราะขณะที่พวกเราได้นอนหลับสบายบนเตียง พวกท่านเหล่านี้บางทีไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนเพื่อคอยดูแลเรา การให้กำลังใจผ่านทางตัวอักษรก็ดีครับ แต่นั่นอาจได้แค่กำลังใจ แต่สิ่งที่จะฟื้นกำลังกายของบุคลากรทางการแพทย์ได้ ผมคิดว่า คือ การมาฉีดวัคซีน อย่าลังเลกันเลย มาช่วยกันแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์กันครับ”
อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ต้องตัดสินใจด้วยตนเองบนข้อเท็จจริง ยิ่งทุกวันนี้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลอย่างง่ายดาย แต่ท้องทะเลแห่งข้อมูลที่เราจมดิ่งลงไปนั้น ก็มีทั้งความจริง และความเท็จที่ต้องระวัง ซึ่งอาหนิงได้ให้เคล็ดลับที่จะช่วยเราในเรื่องนี้ไว้ว่า
“เราต้องรับรู้ความเป็นไปในร่างกายตัวเองอยู่เสมอ หมั่นสังเกตตัวเอง ดูแลสุขภาพ และวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมไปกับวิเคราะห์ตัวเราเอง เช่น คนที่ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ อาจลืมนึกถึงตัวเอง และสถานการณ์ในขณะนี้ ที่อาจต้องหยุดบ้าง”
แน่นอนว่า ประโยชน์โดยตรงของวัคซีนคือช่วยป้องกันไม่ให้เราป่วยรุนแรงหากติดเชื้อ แต่ประโยชน์ทางอ้อมที่ยิ่งสำคัญไม่แพ้กันก็คือ เมื่อมีจำนวนประชากรที่ได้รับวัคซีนมากเพียงพอ จะทำให้สังคมเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ซึ่งเมื่อถึงจุดนั้นเมื่อไหร่ ก็เท่ากับว่า เราได้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างแท้จริง
“การฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้เรามีส่วนช่วยที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ออกกำลังกาย ที่ท่องเที่ยว และที่สำคัญช่วยประเทศของเรา”
อาหนิงทิ้งท้ายก่อนเดินทางกลับบ้าน เพื่อรอการกลับมาฉีดวัคซีนอีกครั้งในเข็มที่ 2
[Advertorial]