รู้จัก Lockdown Brain Fog อยู่บ้านช่วงโควิด-19 นานๆ จนสมองเบลอ
หลายๆ ประเทศมีมาตรการ lockdown หรือการไม่ให้มีการเข้าออกของคนทั้งในและนอกประเทศ เพื่อลดการแพร่เชื้อโควิด-19 แม้ในประเทศไทยจะยังไม่ถึงขั้น lockdown แต่ก็มีนโยบายให้บริษัทต่างๆ สนับสนุนให้พนักงาน รวมถึงโรงเรียนต่างๆ ทำงาน ทำการเรียนการสอนผ่านออนไลน์จากบ้านใครบ้านมัน แต่การขังตัวเองอยู่ในห้องอยู่ในบ้านนานๆ อาจส่งผลไปถึงสมองได้โดยไม่รู้ตัว
Lockdown Brain Fog อยู่บ้านนานจนสมองเบลอ
พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ หมอผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ระบุเอาไว้ใน Podcast: Single Being EP.100 ว่า Lockdown Brain Fog เป็นคำที่ใช้เรียกอาการสมองเบลอจากการอยู่บ้านนานๆ โดยสาเหตุมาจาก
- เราไม่ได้เข้าสังคมเหมือนที่เคยทำเป็นปกติ อาจส่งผลให้การทำงานของสมอง (cognitive function) ลดลง
- เราถูกจำกัดบริเวณให้อยู่แต่ในพื้นที่ที่จำกัดเป็นระยะเวลานาน
- เกิดความเหงาเมื่อต้องอยู่ตัวคนเดียว
ก่อนหน้านี้ทางการแพทย์มีการศึกษาพบว่า ผู้สูงอายุที่อยู่ตัวคนเดียวตามลำพังนานๆ มีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดโรคความจำเสื่อมมากขึ้นได้ แต่สำหรับคนในวัยอื่นๆ ได้มีการทดลองของสก็อตแลนด์กับกลุ่มคนอายุ 18-72 ปี โดยทดสอบความสามารถของสมองในหลายๆ ด้านช่วงกักตัวระหว่างโควิด-19 ระบาด พบว่าการพัฒนาของสมองในแต่ละด้านถดถอยลง และเมื่อคนกลุ่มนี้ได้ออกไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมหลังมาตรการ lockdown ผ่อนคลายลง สมองก็ค่อยๆ กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม
แม้จะเป็นงานวิจัยชิ้นเล็กๆ แต่ก็สามารถแสดงผลให้เราเล็งเห็นถึงความสำคัญของสมองในช่วงเวลานี้ว่าเราอาจจะต้องดูแลสมองของเราให้มากขึ้น
วิธีลดอาการสมองเบลอจาก Lockdown Brain Fog
- แม้ว่าจะยังต้องรักษาระยะห่างทางสังคมอยู่ แต่อย่าลืมมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งการคุยโทรศัพท์ วิดีโอคอล เป็นต้น โดยเป็นการสื่อสารโต้ตอบกลับไปมา ไม่ใช่การรับฟังอย่างเดียว (ไม่ใช่การดูทีวี ดูคลิปวิดีโอต่างๆ อยู่คนเดียว เป็นต้น)
- คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แคบๆ เช่น ห้องเล็กๆ ในหอพักหรือคอนโด จะส่งผลเสียต่อสมองมากกว่าคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่กว้างกว่าอย่าง บ้าน ดังนั้นคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แคบๆ หากพอจะสามารถออกมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้บ้าง ออกมาเดินในบริเวณต่างๆ ของคอนโด เช่น ระเบียง บันได อื่นๆ ได้บ้างก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้ชีวิตประจำวันได้บ้าง โดยเฉพาะหากได้สัมผัสกับธรรมชาติมากขึ้น เช่น สนามหญ้า ต้นไม้ต่างๆ ก็จะส่งผลดีต่อสมองของมากขึ้น
- เคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น พยายามเตือนตัวเองให้ลุกเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้น ทั้งการเคลื่อนไหวระหว่างวัน และการออกกำลังกาย ควรต้องทำทั้งคู่
- ถ้าเราเครียด ความสามารถทางสมองจะลดลงไปด้วย ดังนั้นควรหากิจกรรมหรือหาทางผ่อนคลายสมองไม่ให้เครียดจนเกินไปด้วย
- เข้านอนและตื่นนอนเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เช่น จันทร์ถึงศุกร์นอนเร็วตื่นเช้า เสาร์อาทิตย์นอนดึกตื่นสาย หากทำแบบนี้นานๆ อาจทำให้สมองเกิดปัญหา social jetlag ที่ทำให้สมองเบลอได้ ควรพักผ่อนให้เพียงพอราวๆ 7-8 ชั่วโมง และเข้านอน ตื่นนอนให้เป็นเวลาเดิมๆ ทุกวัน
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสมอง เช่น กลุ่มอาหาร Mediterranean Diet เช่น ปลา อาหารทะเล ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เป็นต้น
- ทำกิจกรรมใหม่ๆ เพิ่มเติมที่เราไม่เคยทำมาก่อน โดยวันหยุดเสาร์อาทิตย์พยายามหากิจกรรมใหม่ๆ ที่แตกต่างไปจากกิจกรรมเดิมๆ ที่เคยทำในวันจันทร์ถึงศุกร์
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยานอนหลับ
สุดท้ายหมอผิงแนะนำว่า ในส่วนตัวของคุณหมอเอง จะพยายามตื่นเช้าๆ มาออกกำลังกาย ทำอาหารกินเอง เดินคุยโทรศัพท์ วางน้ำดื่มไว้ไกลๆ ตัวเพื่อให้ตัวเองลุกเดินไปหยิบ ระหว่างวันตั้งนาฬิกาปลุกเตือนให้ตัวเองลุกขึ้นจากเก้าอี้บ้างเป็นระยะๆ ตอนเย็นๆ ออกไปเดินรอบๆ คอนโดเพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ ยามเย็น และใช้เวลารับประทานอาหารเย็นกับครอบครัว วันเสาร์อาทิตย์ทำกิจกรรมใหม่ๆ เช่น ซื้อตัวต่อมาเล่น หรืออื่นๆ และใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวและคนที่เรารัก เท่านี้ก็น่าจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการ Lockdown Brain Fog ได้