ถ้า “นอนไม่หลับ” ควรกินยานอนหลับเมื่อไร?
เราทุกคนจะต้องเคยมีปัญหานอนไม่หลับอยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่หากนอนไม่หลับบ่อยๆ และไม่สามารถหาวิธีข่มตานอนหลับได้จริงๆ เป็นเวลานาน อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวได้
ในเบื้องต้น ทางการแพทย์จะแนะนำให้ผู้ที่นอนไม่หลับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนอนเสียก่อน เพราะส่วนมากแล้วอาการนอนไม่หลับมักเกิดขึ้นชั่วคราวตามสาเหตุ ซึ่งถ้าแก้ไขสาเหตุหรือสาเหตุหมดไป เราก็จะนอนหลับได้ตามเดิม ตัวอย่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น
- เข้านอนให้เป็นเวลา
- งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหลังเที่ยงวัน
- งดออกกำลังกายก่อนเข้านอน
- ถ้าจำเป็นจะต้องใช้ยาชั่วคราว อาจลองใช้ประเภทยาที่ทำให้ง่วงนอนที่เราสามารถหาซื้อได้ทั่ว ๆ ไป เช่น ยาแก้แพ้ (ANTIHISTAMINE) เป็นต้น
ในกรณีที่อาการนอนไม่หลับรุนแรง หรือเรื้อรัง (อาการนอนไม่หลับอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 เดือน) ควรปรึกษาแพทย์ ปฏิบัติตามคำแนะนำและอยู่ภายใต้การดูแลควบคุมของแพทย์
อันตรายจากการซื้อยานอนหลับมากินเอง
ไม่ควรซื้อยานอนหลับมากินเอง เนื่องจากยานอนหลับมีผลข้างเคียงบางประการ เช่น อาจทำให้เกิดความผิดปกติของเม็ดเลือด ตับ หรือไตได้ อาจทำให้หัวใจหยุดเต้น หรือหยุดหายใจ
นอกจากนี้ส่วนใหญ่พวกยานอนหลับจะมีผลข้างเคียงทั่วไป เช่น อาการง่วง หรือมึนศีรษะในช่วงเวลากลางวัน ลืมเหตุการณ์หลังจากใช้ยาในระยะเวลาสั้นๆ ช่วงหนึ่ง อาการดื้อยาทำให้ต้องใช้ยาจำนวนมากขึ้นและอาการติดยา
หากอาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ควรแก้ที่สาเหตุก่อนการกินยา แต่ถ้าอาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นบ่อยๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม