วิธีปฐมพยาบาล เมื่อถูก “แมลงก้นกระดก” กัด
แมลงก้นกระดก หรือด้วงก้นกระดก มีส่วนหัว ปีก และหางเป็นสีดำ ช่วงอก ส่วนท้องเป็นสีส้มเป็นแมลงขนาดเล็ก ลำตัวประมาณ 7-8 มม. มักอาศัยบริเวณพงหญ้าอับชื้น ชอบออกมาเล่นไฟและแสงสว่างตามบ้านเรือน จะมีมากในช่วงปลายฤดูฝน แมลงชนิดนี้สามารถปล่อยสารที่เรียกว่า พีเดอริน (Pederin) ซึ่งก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนังของผู้ที่สัมผัส
“พีเดอริน” พิษร้ายหน้าฝน
พญ.ทิวานันท์ พรหมวรานนท์ แพทย์ผู้ชำนาญด้านผิวหนังและความงาม ศูนย์ศัลยกรรมและเวชกรรมเสริมสวย โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) ระบุว่า พีเดอริน (Pederin) คือ สารพิษในตัวแมลงก้นกระดกที่ทำให้ผิวหนังชั้นนอกอักเสบ ระคายเคือง เกิดผิวหนังไหม้จากการสัมผัสสารพีเดอรินที่ออกมาจากตัวแมลง ไม่ใช่เกิดจากการกัดหรือต่อย ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้มักจะไม่รู้ตัว เมื่อสัมผัสแมลงชนิดนี้
อาการจากพิษของ แมลงก้นกระดก
- แผลมีลักษณะไหม้ โดยมักพบลักษณะไหม้เป็นทางยาว หรือพบลักษณะ kissing lesion ซึ่งเป็นผื่นบริเวณซอกพับที่ประกบกัน
- เกิดการระคายเคือง ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีแดง มีอาการแสบร้อน หรือคัน
- มีตุ่มผื่นแดง ตุ่มพองน้ำ
- ปวดแสบปวดร้อน
- คัน ระคายเคือง
- แผลมีลักษณะไหม้
การดูแลรักษา
- ล้างด้วยน้ำเปล่าที่สะอาด
- ประคบเย็นในบริเวณที่โดนสัมผัส
- รอยเล็กๆ สามารถหายได้ใน 2-3 วัน
- กินยาแก้แพ้
- ทายาสเตียรอยด์ทาบริเวณที่โดนสัมผัส
- สังเกตอาการ หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์
วิธีป้องกันแมลงก้นกระดก
การป้องกันแมลงก้นกระดก คือ ไม่ควรโดนหรือสัมผัสตัวแมลงดังกล่าว หากบังเอิญแมลงโดนร่างกาย ควรหลีกเลี่ยงการปัดหรือสัมผัสโดยตรง และควรปัดอุปกรณ์บนที่นอน สะบัดเสื้อผ้า อุปกรณ์ที่สวมใส่ เพื่อป้องกันแมลงซ่อนตัว รวมทั้งควรปิดประตูตู้เสื้อผ้า ประตูและหน้าต่างห้องนอนให้มิดชิดทั้งกลางวันและกลางคืน ในช่วงกลางคืนควรเปิดไฟเฉพาะเท่าที่จำเป็นโดยเฉพาะควรปิดไฟห้องนอน เพราะแมลงก้นกระดกมักชอบออกมาเล่นแสงไฟ