5 ท่าโยคะง่ายๆ แก้ปวดหัวชะงัดสุดๆ

5 ท่าโยคะง่ายๆ แก้ปวดหัวชะงัดสุดๆ

5 ท่าโยคะง่ายๆ แก้ปวดหัวชะงัดสุดๆ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการปวดหัว เป็นอาการยอดฮิตของคนทำงาน และนักเรียนที่อยู่ในช่วงเรียนหนัก เกิดจากอาการเครียดสะสม หรือนั่งจ้องหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานเกินไป จนหลายๆ ครั้งเราต้องกันไปพึ่งยาพาราเซตามอล แอสไพริน หรือบางคนถึงขั้นยาแก้ปวดหัวไมเกรนเลยก็มี แต่อันที่จริงแล้ว แค่ท่าโยคะง่ายๆ ใครๆ ก็ทำตามได้เหล่านี้ ช่วยให้อาการปวดหัวของคุณหายเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะ

 

1. ท่ายืนก้มจับเท้า หรือแตะพื้น (Big Toe pose)

ท่านี้จะช่วยให้ร่างกายของเราได้ยืดกล้ามเนื้อบริเวณช่วงไหล่ได้อย่างเต็มที่ แต่นุ่มนวล ใครที่สามารถยืนขาตรง แล้วก้มเอามือแตะพื้นได้ยิ่งดี แต่ถ้าใครเอามือแตะพื้นไม่ถึง ลองยืดแขนให้ใกล้พื้นที่สุด หรือเอานิ้วแตะปลายเท้าก็ได้ ทำค้างไว้ 10 วินาที

 

2. ท่าหมาคว่ำหน้า (Downward Facing Dog pose)

นอกจากจะช่วยยืดกล้ามเนื้อแขนและขาแล้ว ยังช่วยให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงสมองได้อย่างพอดีอีกด้วย ค่อยๆ ก้มหน้า และยืดแขนสัมผัสพื้นช้าๆ แล้วนับในใจ 10 วินาที จากนั้นค่อยๆ เอามือไต่พื้นเข้าใกล้ตัว เพื่อค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ อย่าทำเร็วจนเกินไป เพราะอาจหน้ามืดได้

 

3. ท่าโลมา (Dolphin pose)

ท่าโลมาแตกต่างจากท่าหมาคว่ำหน้าตรงที่เราจะแนบแขนท่อนบนทั้งหมดกับพื้น ท่านี้จะทำให้ส่วนของร่างกาย แขน และขาแข็งแรง นอกจากนี้ยังช่วยเปิดไหล่อย่างเป็นธรรมชาติ ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อช่วงไหล่และคอได้ดี ค้างท่านี้ไว้ 10 วินาที

 

4. ท่าสะพานโค้ง (Bridge pose)

ท่าสะพานโค้งช่วยเรียกพลัง เพื่อฟื้นฟูร่างกาย ให้กลับคืนสภาพปกติ จังหวะที่ยกเอวขึ้น ค่อยๆ ทำอย่างช้าๆ  และไม่ตำเป็นต้องยกตัวให้สูงจนเกินไปนัก ให้รู้สึกถึงเลือดไหลเวียนจากที่สูงลงที่ต่ำ ทำค้างไว้ 10 วินาที

 

5. ท่าศพ (Corpse pose)

ถึงท่านี้จะดูน่ากลัว แต่รับรองว่าเป็นท่าที่ทุกคนชอบแน่นอน หลังจากก้มๆ เงยๆ ให้เลือดไหลเวียนมาสักพักแล้ว ท่านอนหงายนิ่งๆ แบบนี้นี่แหละสบายที่สุด ระหว่างที่นอนหงายก็ปล่อยแขนปล่อยขาตามสบาย ไม่ต้องเกร็ง และหายใจเข้าออกลึกๆ ไปด้วยนะคะ ท่านี้ให้ 3-5 นาทีเลย แต่อย่าเผลอหลับล่ะ (ยกเว้นท่าโยคะเหล่านี้ก่อนนอน)

 

เท่านี้เพื่อนๆ ก็ลดอาการปวดหัวได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องใช้ยาแล้วล่ะค่ะ ท่าโยคะเหล่านี้จะเจ๋งขนาดไหน ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วล่ะค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก yogajournal.com
ภาพประกอบจาก istockphoto

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook