อันตรายจาก "สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย"

อันตรายจาก "สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย"

อันตรายจาก "สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อย. ระบุว่า สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรียถึงอาจจะส่งผลเสียต่อเราได้ หากใช้บ่อยหรือมากเกินความจำเป็น

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า สบู่ เป็นผลิตภัณฑ์ใช้ทำความสะอาดร่างกายในชีวิตประจำวัน สามารถชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดีกว่าการใช้น้ำเพียงอย่างเดียว ซึ่งการใช้ในวัตถุประสงค์ทำความสะอาดจึงจัดเป็นเครื่องสำอาง ปัจจุบันมีผู้ผลิตหลายรายได้ผสมสารต้านแบคทีเรียลงไปในสบู่ โดยอ้างว่าสามารถทำความสะอาดผิวได้ดีขึ้น เนื่องจากสารต้านแบคทีเรียจะช่วยทำลายเชื้อโรคที่อยู่บนผิวหนัง

อันตรายจากสบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย

เชื้อแบคทีเรีย เป็นเซลล์ขนาดเล็กมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถพบได้ทั่วร่างกาย การทำความสะอาดด้วยสบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย ซึ่งที่นิยมนำมาผสมในสบู่ ได้แก่ ไตรโคลซาน (Triclosan) จะสามารถทำความสะอาดผิว ชำระล้างสิ่งสกปรก และช่วยลดจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่บนผิวหนังของเราได้ แต่การใช้บ่อยและมากเกินความจำเป็นจะส่งผลเสีย เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียมีทั้งชนิดก่อให้เกิดโรคร้ายแรงและชนิดที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย สารต้านแบคทีเรียที่ผสมอยู่ในสบู่จะไม่สามารถแยกความแตกต่างของเชื้อแบคทีเรียได้ จะทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ดีที่ช่วยทำหน้าที่ปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอม ทำให้ร่างกายไม่มีภูมิต้านทานต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงทิ้งสารตกค้างของสารต้านเชื้อดังกล่าวบนผิวหนัง และมีผลทำให้มีการพัฒนาการของสายพันธุ์แบคทีเรียที่แข็งแรง

เราจำเป็นต้องใช้สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรียหรือไม่

คนทั่วไปไม่มีความจำเป็นต้องใช้สบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย เนื่องจากการทำความสะอาดด้วยสบู่ธรรมดาอย่างสม่ำเสมอก็สามารถลดจำนวนเชื้อแบคทีเรียออกไปได้เช่นเดียวกับสบู่ผสมสารต้านแบคทีเรีย

จะทราบได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์นั้นต้านเชื้อแบคทีเรียหรือไม่?

สังเกตผลิตภัณฑ์ที่มีป้ายกำกับว่า "ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย" และฉลากแสดงข้อมูลส่วนประกอบบนบรรจุภัณฑ์ สามารถช่วยบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีส่วนผสมของสารต้านเชื้อแบคทีเรียหรือไม่

ที่สำคัญควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตจาก อย. โดยสามารถตรวจสอบเลขที่ใบรับจดแจ้งได้ที่ www.oryor.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook