7 สัญญาณอันตราย “ต่อมลูกหมากโต”
ผู้ชายวัยกลางคนถึงวัยชรา เสี่ยงโรคต่อมลูกหมากโตมากไม่แพ้โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก มีอาการเริ่มต้นที่พอสังเกตได้อยู่บ้าง หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที
ต่อมลูกหมาก คืออะไร
สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ระบุว่า ต่อมลูกหมากเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุ์ รูปร่างคล้ายลูกเกาลัดหุ้มรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น ปกติจะมีขนาดประมาณ 15-20 กรัม หน้าที่ที่สำคัญของต่อมลูกหมาก คือ การสร้างน้ำอสุจิ โดยทั่วไปต่อมลูกหมากจะหยุดเจริญเติบโตหลังจากอายุ 20 ปี จนกระทั่งอายุประมาณ 45 ปี จะมีการเพิ่มขนาดขึ้นอีกครั้ง และเป็น
สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต
โรคต่อมลูกหมากโต จะพบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ยิ่งถ้ามีชีวิตยืนยาวถึง 80-90 ปี ผู้ชายทุกคนในวัยนี้จะมีต่อมลูกหมากโตกันทั้งหมด แต่ไม่ใช่ผู้ป่วยต่อมลูกหมากโตทุกคนจะมีอาการ บางคนมีอาการน้อยมาก เช่น ความแรงของปัสสาวะลดลงบ้าง แต่ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ในขณะที่บางคนอาจอาการหนักถึงขั้นปัสสาวะไม่ออกได้
สัญญาณอันตราย อาการของโรคต่อมลูกหมากโต
สำหรับอาการของโรคต่อมลูกหมากโตที่สำคัญมีอยู่ 7 อย่างคือ
- ถ่ายปัสสาวะบ่อย
- ปัสสาวะไหลไม่แรง
- เวลาปวดปัสสาวะต้องรีบเข้าห้องน้ำรอไม่ได้
- ถ่ายปัสสาวะเสร็จแล้วรู้สึกไม่สุด
- ปัสสาวะไหลๆ หยุดๆ
- ต้องเบ่งช่วยเวลาถ่ายปัสสาวะ
- ถ่ายปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
อันตรายของโรคต่อมลูกหมากโตจากภาวะแทรกซ้อน
โรคต่อมลูกหมากโตอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้แก่ ปัสสาวะไม่ออกเลย ทางเดินปัสสาวะอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ไตเสื่อมหรือกระเพาะปัสสาวะเสื่อม ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้น ซึ่งอาจพบได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของผู้ป่วยต่อมลูกหมากทั้งหมด
วิธีรักษาโรคต่อมลูกหมากโต
สำหรับโรคต่อมลูกหมากโต ส่วนมากมักจะมีต่อคุณภาพชีวิตมากกว่าจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม ดังนั้น การรักษาจะมุ่งเน้นที่จะให้อาการขับถ่ายปัสสาวะของผู้ป่วยดีขึ้น และเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนจากต่อมลูกหมากโต โดยทั่วไป สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการน้อยและไม่มีผลต่อคุณภาพชีวิต อาจยังไม่ต้องรักษาเพียงแต่เฝ้าติดตามไปก่อนได้ สำหรับการรักษาในปัจจุบัน ได้แก่
- การใช้ยา ปัจจุบันมียาเพื่อใช้รักษาอาการของโรคต่อมลูกหมากโตมากมาย สามารถแบ่งออกได้ 3 กลุ่มดังนี้
ยาในกลุ่มอัลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha adrenergic blockers) ซึ่งสมัยก่อนจะใช้เป็นยาลดความดัน แต่ปัจจุบันได้พัฒนาต่อจนมีผลต่อความดันโลหิตน้อยมาก ยาในกลุ่มนี้ออกฤทธิ์เร็ว ผู้ป่วยจะรู้สึกปัสสาวะสะดวกขึ้นภายใน 3 วัน แต่ถ้าหยุดยาและอาการก็จะกลับมาอย่างรวดเร็ว ยาในกลุ่มนี้จะใช้กันแพร่หลายที่สุด
ยาที่ยับยั้งการสร้างฮอร์โมน (DHT) (Dihydrotestosterone) ยาในกลุ่มนี้จะลดการสร้างฮอร์โมน DHT ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมาก แม้ว่าจะออกฤทธิ์ช้า แต่สามารถลดขนาดของต่อมลูกหมากได้ในระดับหนึ่ง จะมีประโยชน์เฉพาะผู้ป่วยที่มีต่อมลูกหมากค่อนข้างโต
ยาสมุนไพร มีอยู่หลายชนิด สำหรับชนิดที่แพร่หลายที่สุด คือ จากสมุนไพรชื่อ Saw palmetto แต่ประสิทธิภาพยังไม่ชัดเจนนัก
- การรักษาโดยการผ่าตัด ส่วนมากจะเป็นการผ่าตัดผ่านกล้อง หรือที่รู้จักในชื่อ TURP ซึ่งยังคงเป็นมาตรฐานการผ่าตัด ในขณะนี้การรักษาโดยการผ่าตัดจะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโตและมีภาวะแทรกซ้อน หรือการทานยาไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามมีการผ่าตัดวิธีการอื่นที่สามารถลดภาวะแทรกซ้อนหรือลดระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลได้ เช่น การใช้เลเซอร์ช่วยในการผ่าตัด การใช้ขดลวดตาข่ายขยาย ต่อมลูกหมาก เป็นต้น