“โอเมก้า 6” สำคัญไม่แพ้ “โอเมก้า 3” ลดคลอเลสเตอรอล-มะเร็ง

“โอเมก้า 6” สำคัญไม่แพ้ “โอเมก้า 3” ลดคลอเลสเตอรอล-มะเร็ง

“โอเมก้า 6” สำคัญไม่แพ้ “โอเมก้า 3” ลดคลอเลสเตอรอล-มะเร็ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทุกคนคงรู้จักโอเมก้า 3 กันดีนะคะ เพราะประโยชน์ของมันมีมากมายเหลือเกิน ทั้งในเรื่องของการบำรุงประสาท และสมอง สายตา ภูมิคุ้มกันโรค ไปจนถึงบำรุงผิวพรรณให้สวยสดใส คนจึงนิยมทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เช่น ปลาต่างๆ และถึงขั้นทานวิตามินเป็นเม็ดๆ แต่น้อยคนที่จะรู้จัก “โอเมก้า 6” ที่มีประโยชน์ และมีความสำคัญต่อร่างกายไม่แพ้โอเมก้า 3 เหมือนกัน

 

โอเมก้า 6 คืออะไร?

โอเมก้า 6 คือกรดไขมันแบบไม่อิ่มตัวอย่างกรดลิโนเลอิก และกรดอะราคิโดนิก  ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ เราจึงต้องทานเข้าไปเหมือนกันกับโอเมก้า 3 นี่แหละ โดยความสำคัญของโอเมก้า 6 คือเป็นตัวรักษาสมดุลของโอเมก้า 3 อีกทีหนึ่ง ดังนั้นหากคุณทานโอเมก้า 3 เข้าไป ก็ต้องทานโอเมก้า 6 เพื่อให้ช่วยรักษาสมดุลในร่างกายด้วย  เช่น คุณสมบัติของโอเมก้า 3 คือช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แต่หากทานมากไปจะมีปัญหาเมื่อต้องผ่าตัด ถอนฟัน ดังนั้นควรทานโอเมก้า 6 ควบคู่ไปด้วย เพราะจะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ดีขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาเลือดหยุดช้าหลังผ่าตัด ถอนฟันนั่นเอง

 

โอเมก้า 6 สำคัญอย่างไร?

อย่างที่บอกไปคือ โอเมก้า 6 จะช่วยรักษาสมดุลการทำงานของโอเมก้า 3 โอเมก้า 3 ช่วยให้เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น ในขณะที่โอเมก้า 6 จะช่วยให้เลือดแข็งตัวได้ง่ายขึ้น จึงทำให้ร่างกายมีระบบไหลเวียนโลหิตที่สมบูรณ์ ดังนั้นหากใครทานโอเมก้า 3 อยู่ ก็ต้องทานโอเมก้า 6 ควบคู่ไปด้วย ถึงจะทำให้ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์จริงๆ ค่ะ

 

ประโยชน์ของ โอเมก้า 6

1. ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดไขมันอุดตันเส้นเลือด ส่งผลดีต่อหลอดเลือด และหัวใจ

2. ช่วยลดอาการอักเสบ และอาการปวดต่างๆ ตามร่างกาย

3.รักษาความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดปัญหาผิวแห้ง แตก กร้าน ลอกเป็นขุย รวมไปถึงรังแคบนหนังศีรษะ ผมร่วง หรือโรคผิวหนังบางชนิดอีกด้วย

4. ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย และลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง

5. ลดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ของผู้ป่วยเบาหวาน เช่น อาการชาตามปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า

6. ควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายให้เป็นปกติ

โอเมก้า 6 หาทานได้จากน้ำมันที่มาจากพืช เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ดอกทานตะวัน รำข้าว ข้าวโพด

โอเมก้า 6 หาทานได้จากอาหารใดบ้าง?

โอเมก้า 6 อยู่ในน้ำมันพืชต่างๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง ดอกทานตะวัน รำข้าว ข้าวโพด หรืออาจจะเป็นน้ำมันพืชพิเศษ เช่น น้ำมันพริมโรส น้ำมันมะกอกมีโอเมก้า 6 ด้วยเช่นกัน แต่น้อยกว่าน้ำมันที่มาจากพืชอื่นๆ และเหมาะสำหรับทานสด ผสมในสลัด หรือผ่านความร้อนน้อยๆ เช่นผัดเท่านั้น

 

รักษาความสมดุลของโอเมก้า 3 และ 6 ได้อย่างไร?

1. ในกรณีที่ทานโอเมก้า 3 จากปลา ควรทานปลาน้ำจืด และปลาทะเลในปริมาณพอๆ กัน อย่าทานอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย

2. ควรทานปลาให้สม่ำเสมอ ทานให้ได้อย่างน้อยทุกสัปดาห์ แต่ไม่ต้องทานปลาทุกมื้อก็ได้

3. เลือกทานทั้งน้ำมันพืช สำหรับผัดหรือทอด และน้ำมันมะกอก สำหรับทานกับสลัดผัก หรือผัดเร็วๆ

4. อย่าลืมออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

 

หลักสำคัญคือ เลือกทานอาหารที่หลากหลาย ไม่ใช่อะไรว่าดีก็ทานอยู่แต่อย่างนั้นอยู่อย่างเดียว เพื่อให้เราได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไป เพราะร่างกายของเราจะมีความสมดุลได้ ก็ต้องเริ่มที่การทานอาหาร และพฤติกรรมของเรานี่แหละค่ะ

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก todayhealth.org, healthgossip.co
ภาพประกอบจาก istockphoto

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook