รู้จัก "ริดสีดวงหงอนไก่" โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบง่ายไม่แพ้เอดส์-ซิฟิลิส
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นมีมากมาย และสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ หากไม่รู้จักการป้องกันที่ดี โดยสามารถติดต่อระหว่างผู้มีเชื้อกับผู้รับเชื้อผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหนึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยเลยก็คือ ริดสีดวงหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสฮิวแมน แปปิโลมาไวรัส หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า HPV โดยไวรัสชนิดนี้เป็นชนิดเดียวกับตัวที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ซึ่งสามารถเป็นได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบมากในหมู่วัยรุ่นที่ขาดความรู้ในการป้องกัน วันนี้เราเลยอยากมาบอกเล่าเกี่ยวกับการติดต่อของโรคนี้ และแนะนำวิธีการรักษาริดสีดวงหงอนไก่ที่สามารถทำได้ จะเป็นอย่างไรบ้าง
ริดสีดวงหงอนไก่ ติดต่อได้ทางไหนบ้าง?
การติดต่อของโรคริดสีดวงหงอนไก่สามารถติดต่อได้ทางการสัมผัสทางผิวหนัง โดยเฉพาะผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ผู้ที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อยนอกจากนี้ยังพบว่าการใช้ของใช้ร่วมกันก็มีโอกาสทำให้เกิดการติดต่อของโรคได้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น การใช้เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ผ้าเช็ดตัว หรือสบู่ เป็นต้น
จะรู้ได้อย่างไรบ้างเป็นหูดหงอนไก่ หรือ ริดสีดวง?
ผู้ที่เป็นหูดหงอนไก่จะรู้สึกคัน เป็นผื่นสีออกน้ำตาลชมพู ผื่นจะค่อยๆ นูนและหนาขึ้นจนกลายเป็นก้อนโตอุดกั้นบริเวณช่องคลอด ทวารหนัก มีลักษณะคล้ายดอกกะหล่ำเป็นติ่ง ๆ กระจายตัวไปทั่ว ซึ่งบางรายอาจมีการตกขาวที่ผิดปกติร่วมด้วย หรือมีเลือดออก และแสบร้อนบริเวณอวัยวะเพศ
แต่ผู้ที่เป็นริดสีดวงมักเป็นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายเป็นหลัก โดยสาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากการที่เส้นเลือดดำบริเวณปลายลำไส้ใหญ่เกิดการบวมพองหรือยืดตัว จนเป็นติ่งที่ยื่นนูนออกมาจากทวารหนัก และทำให้ผู้ป่วยมีอาการเจ็บเวลาถ่าย หรือนั่งเป็นเวลานาน
แนวทางป้องกันและวิธีการรักษาริดสีดวงหงอนไก่
- สวมใส่ถุงยางอนามัยก่อนมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสในการติดเชื้อ
- รักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะบริเวณทวารหนัก และอวัยวะเพศ
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี
- ตรวจคัดกรองมะเร็งปากทวารหนักทุก 6 เดือน สำหรับผู้ที่รักร่วมเพศ
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังทำกิจกรรมต่าง ๆ
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
การรักษาริดสีดวงหงอนไก่สำหรับผู้ป่วยที่ยังมีติ่งไม่ใหญ่มากจะรักษาด้วยการจี้ไฟฟ้า เพื่อทำลายเนื้อเยื่อส่วนที่มีการติดเชื้อออก แต่สำหรับผู้ที่เริ่มมีติ่งขนาดใหญ่ แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดเนื้อเยื่อส่วนนั้นออก ซึ่งเราสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคและลดความรุนแรงของโรคได้