5 เหตุผลที่อาจทำให้ IF ลดน้ำหนักไม่ได้ผล แถมยังอันตรายต่อสุขภาพ
คิดอยากจะทำ IF เพื่อลดน้ำหนัก แต่ถ้าทำไม่ถูกวิธี อาจเป็นเหตุให้ต้องเข้าโรงพยาบาลได้
นักกำหนดอาหาร คลินิกควบคุมน้ำหนักและรักษาโรคอ้วน โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า Intermittent Fasting (IF) หรือการอดอาหารเป็นช่วงๆ เป็นวิธีลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
IF คือการกำหนดช่วงเวลาในการกินอาหาร
การลดน้ำหนักแบบ IF เป็นการกำหนดช่วงเวลาในการอดอาหาร (Fasting) และรับประทานอาหาร (Feeding) โดยไม่เน้นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริโภคอาหาร แต่เป็นการกำหนดเวลาในการรับประทานอาหารจะทำให้ลดปริมาณการกินอาหารและลดพลังงานจากอาหารที่ได้รับ และในช่วงเวลาที่อดอาหาร (Fasting) ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ลดลง ส่งผลให้การเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดไปเป็นไขมันลดลง ทำให้การกักเก็บไขมันใต้ผิวหนังและน้ำหนักลดลง และช่วงที่ระดับอินซูลิน (Insulin) ลดลง ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) และนอร์อีพิเนฟริน (Norepinephrine) เพิ่มขึ้นอีกด้วย
5 เหตุผลที่อาจทำให้ IF ลดน้ำหนักไม่ได้ผล แถมยังอันตรายต่อสุขภาพ
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ระบุถึงความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำ IF (Intermittent Fasting) เอาไว้ ดังนี้
- เลือกช่วงเวลาการอดอาหารไม่เหมาะสม ทำให้ร่างกายเกิดความหิว ควรเลือกช่วงเวลาให้เหมาะสม เช่น ช่วงเวลาที่ร่างกายยังไม่ต้องการสารอาหาร (ตอนกลางคืนไปจนถึงตอนนอน) เป็นต้น
- ไม่ได้ประเมินร่างกายก่อนด้วยการวัดค่าดัชนีมวลกาย หรือ BMI เพื่อกำหนดช่วงเวลาหรือวิธี รวมถึงระยะเวลาในการอดอาหารที่เหมาะสม
- ไม่ได้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนทำ IF ในกรณีที่มีโรคประจำตัว หรือมีปัญหาทางสุขภาพเฉพาะตัวอื่นๆ
- ยังฝืนอดอาหารต่อไป แม้มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกาย เช่น รู้สึกไม่สบาย ทรมาน นอนไม่หลับ ปวดแสบท้อง ฯลฯ หากทำได้ถูกต้องจะไม่เกินอาการทรมานร่างกายมากขนาดนั้น
- อยู่ในกลุ่มอายุที่ยังไม่สมควรทำ IF ได้แก่ กลุ่มที่ร่างกายยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ หรืออายุต่ำกว่า 12 ปีลงไป เพราะจะทำให้ขาดสารอาหารได้
การทำ IF สามารถช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผลในกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป หากทำอย่างถูกต้อง หากสนใจทำ IF ควรปรึกษาแพทย์ นักโภชนาการ รวมถึงประเมินสภาวะสุขภาพของตนเองและต้องไม่มีโรคประจำตัวก่อนทำ IF เสมอ เพื่อลดความเสี่ยงการขาดสารอาหาร ขาดพลังงาน จนอาจเกิดผลกระทบที่แสดงให้เห็นในค่าเลือดและการทำงานของร่างกายหลายระบบในภายหลังได้