โควิด-19, ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ อาการแตกต่างกันอย่างไร

โควิด-19, ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ อาการแตกต่างกันอย่างไร

โควิด-19, ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ อาการแตกต่างกันอย่างไร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการของโควิด-19, ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ อาจจะใกล้เคียงกันจนแยกไม่ค่อยออก แต่จริงๆ แล้วมีจุดสังเกตง่ายๆ อยู่ หากสงสัยว่าเป็นโรคไหน จะได้เตรียมรับมือได้ถูกวิธี

ท่ามกลางช่วงโรคโควิด-19 ระบาด เราอาจจะระมัดระวังตัวเองแต่กับโรคนี้โรคเดียว ทั้งที่จริงแล้วไข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่ต่างก็กำลังระบาดหนักไม่แพ้กัน แต่อาการที่จะแยกโรคแต่ละโรคออกจากกันได้ ที่เราสามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองมีอะไรบ้าง

โควิด-19, ไข้เลือดออก, ไข้หวัดใหญ่ อาการแตกต่างกันอย่างไร

โควิด-19 (โอมิครอน)

การระบาดของโควิด-19 ในปี 2022 นี้ ส่วนใหญ่มาจากสายพันธุ์โอมิครอนเป็นหลัก และพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 โอมิครอนเกือบ 50% ไม่มีอาการ ส่วนอาการที่พบได้ มีดังนี้

  1. มีไข้
  2. ไอ เจ็บคอ
  3. ปวดกล้ามเนื้อ
  4. มีน้ำมูก
  5. ปวดศีรษะ
  6. หายใจลำบาก
  7. ได้กลิ่นลดลง

ไม่จำเป็นต้องมีอาการครบทุกข้อ อาจจะมีอาการ 1-3 ข้อนี้ก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่อาการใกล้เคียงกับไข้หวัดธรรมดามาก

โดยส่วนมากแล้วการติดเชื้อโควิด-19 โอมิครอนจะเป็นการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนไม่ได้ลงปอด จึงทำให้อาจพบเจอผู้ป่วยเหล่านี้ปะปนกับคนทั่วไปในที่สาธารณะได้ง่าย แม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วก็ยังสามารถติดเชื้อได้แต่ช่วยลดความรุนแรงของอาการลงไปได้มาก ดังนั้นจึงควรป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนสัมผัสอวัยวะต่างๆ ในร่างกายหรือหยิบจับอาหารเข้าปาก

ไข้เลือดออก

เพราะโควิด-19 ทำให้คนอยู่ดูแลบ้านจึงกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายไปได้มากขึ้น แต่โรคไข้เลือดออกก็กลับมาระบาดอีกครั้งเพราะคนเริ่มออกจากบ้านจนการป้องกันลดลง แต่อาการของไข้เลือดออกจะเป็นอย่างไร สามารถสังเกตได้ดังนี้

  1. มีไข้สูงแบบเฉียบพลัน และต่อเนื่องเป็นเวลา 2-7 วัน แม้จะเช็ดตัวหรือทานยาลดไข้แล้วก็ไม่ดีขึ้น
  2. ปวดศีรษะ
  3. ปวดเมื่อยตามตัว
  4. หน้าแดง
  5. อาจมีจุดแดงเล็กๆ ขึ้นตามลำตัว แขน ขา
  6. ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก
  7. มักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  8. ปวดท้องและเบื่ออาหาร

หากพบว่ามีอาการไข้ลดลงอย่าเพิ่งชะล่าใจ เพราะทำให้เกิดภาวะช็อกจนกระทั่งเสียชีวิตได้ ควรนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจอาการและรักษาได้ทันท่วงที

ไข้หวัดใหญ่

โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus) เป็นเชื้อที่พบมานานแล้ว อาการมักจะไม่รุนแรง และไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ปัจจุบันได้กลายเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่พบปะปนกับสายพันธุ์ต่างๆ ทั่วไป 

อาการทั่วไปคล้ายกับโควิด-19 ค่อนข้างมาก ดังนี้

  1. ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก
  2. ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หนาวสั่น
  3. เบื่ออาหาร
  4. คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอแห้งๆ
  5. บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน

ข้อแตกต่างที่ยังพอสังเกตได้ คือ ไข้หวัดใหญ่อาจจะไม่มีอาการเจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้มากในผู้ป่วยโควิด-19 แต่ก็ยังต้องได้รับการตรวจจากแพทย์เพื่อยืนยันอีกครั้ง หรืออาจจะจำแนกได้ด้วยตัวเองจากการตรวจ ATK

อย่างไรก็ตาม โรคไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ปีละ 1 ครั้ง สามารถฉีดได้ทุกเพศทุกวัย ในเด็กสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน ส่วนผู้หญิงตั้งครรภ์สามารถฉีดเพื่อป้องกันลูกน้อยที่เพิ่งคลอดยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะฉีดวัคซีนได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook