ทำไม “ผอม” แต่ยังมี “พุง” พร้อม 3 วิธีกำจัดพุง

ไม่ได้อ้วน แต่ไขมันที่พุงไม่หายไปสักที เป็นเพราะอะไร

นาย ยลวรณัฏฐ์ จีรัชตกรณ์ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า Visceral Fat ภาวะไขมันในช่องท้อง ไม่ว่าจะเป็นคนอ้วนหรือผอม ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น หากคุณกำลังใช้ชีวิตเต็มที่กับการกิน Enjoy Eating โดยเฉพาะอาหารพวก แป้ง ไขมัน น้ำตาล นอกจากจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้ว ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น ภาวะไขมันพอกตับ ไขมันในหลอดเลือด ฯลฯ

สาเหตุของภาวะไขมันในช่องท้อง

ไขมันในช่องท้อง เกิดขึ้นจากการที่ร่างกายมีการรับและสะสมสารอาหารประเภทไขมันเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมาก โดยที่ไม่สามารถเผาผลาญได้หมดในแต่ละวัน ได้แก่ อาหารประเภท คาร์โบไฮเดรต น้ำตาลที่ได้รับมากเกินก็จะเปลี่ยนรูปเป็นไขมัน ไม่ใช่เฉพาะไขมัน และเข้าไปเกาะติดอยู่ภายในอวัยวะต่างๆ รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องด้วย เมื่อนานวันมากขึ้น ไขมันชนิดนี้ก็จะมีความแข็งตัวมากยิ่งขึ้น และจะดันให้หน้าท้องของเราให้ยื่นออกมาจนเห็นได้ชัดเจน

กินน้อย ก็มีไขมันในช่องท้องได้

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะไขมันในช่องท้อง นอกจากการรับประทานอาหารที่มากเกินไปแล้วอีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการไม่ชอบออกกำลังกาย ไม่ชอบเคลื่อนไหวร่างกาย และยังพบว่าบางครั้งคนที่กินน้อยแล้วก็ยังมีโอกาสพบภาวะไขมันในช่องท้องได้

3 วิธีกำจัดไขมันในช่องท้อง

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนอ้วนหรือผอม หากมีไขมันที่พุง สามารถใช้วิธีเหล่านี้ในการกำจัดไขมันที่พุงได้

1. ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ วันละอย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์ ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ได้แก่ วิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ กระโดดเชือก แอโรบิก เป็นต้น โดยสังเกตความเหมาะสมในการออกกำลังกายว่าจะต้องมีความเหนื่อยในระดับที่รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น และพูดเป็นประโยคระหว่างที่ออกกำลังกายอยู่ได้ลำบากมากขึ้น
2. ออกกำลังกายแบบฝึกกล้ามเนื้อ หรือเวทเทรนนิ่ง เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอได้ดียิ่งขึ้น หากเลือกวิธียกน้ำหนัก ควรเลือกน้ำหนักที่เราสามารถยกได้ 12-15 ครั้ง
3. ควบคุมอาหาร เพื่อจำกัดปริมาณพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันให้ไม่เกินที่ร่างกายต้องการ ไม่ให้มีพลังงานเกินไปสะสมอยู่ตามร่างกาย โดยเฉพาะหน้าท้อง ดังนั้นอาหารที่ให้พลังงานสูงทั้งหลาย เช่น ไขมันจากสัตว์ แป้งและน้ำตาลที่ไม่ขัดสี อาหารโซเดียมสูง และเบียร์ที่ทำให้บวมได้ เป็นต้น