แพทย์เตือน เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี เสี่ยง “ตับอักเสบเฉียบพลัน” ระบาดรุนแรง
กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เฝ้าระวังโรคตับอักเสบเฉียบพลันระบาดรุนแรงในเด็ก โดยกลุ่มเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปี เป็นโรคนี้มากที่สุด
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า มีประกาศแจ้งเตือนจากองค์การอนามัยโลก พบว่ามีผู้ป่วยเด็กเป็นตับอักเสบเฉียบพลันเพิ่มสูงขึ้นโดยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ปี โดยมีอาการท้องเสีย อาเจียน มักไม่มีไข้ ต่อมาพบว่ามีตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงตามมา และพบว่าร้อยละ 10 ของผู้ป่วยเกิดภาวะตับวายตามมา
โดยสาเหตุไม่ได้เกิดจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอ-อี และหนึ่งในสามของผู้ป่วยตรวจพบการติดเชื้อ Adenovirus และในผู้ป่วยบางรายมีการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ร่วมด้วย
สาเหตุของโรคตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงในเด็ก
สาเหตุของตับอักเสบเฉียบพลันในเด็ก อาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไวรัสตับอักเสบเอ-อี ไข้เลือดออก ยา/สารพิษ ภูมิคุ้มกันทำลายตับ หรือโรคพันธุกรรมทางตับ เป็นต้น
Adenovirus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งติดต่อโดยการสัมผัสใกล้ชิด ละอองฝอยของสิ่งคัดหลั่งทางระบบทางเดินหายใจ สัมผัสจากสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อ โดยมีเกือบ 50 สายพันธุ์ โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยเด็กมักมาด้วยอาการทางระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก โดยทั่วไป Adenovirus ไม่ทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลันในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติ
จึงมีข้อสันนิษฐานว่าในช่วงการระบาดของโรคโควิดที่ผ่านมา ทำให้ภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ Adenovirus ในเด็กน้อยลง เนื่องจากการติดเชื้อลดลง หรืออาจมีการกลายพันธุ์ของเชื้อ Adenovirus หรืออาจเกี่ยวข้องกับเชื้อโควิด ทำให้ผู้ป่วยเด็กที่มีภูมิคุ้มกันปกติเมื่อติดเชื้อ Adenovirus แล้วเกิดตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงตามมาได้
อาการเสี่ยงโรคตับอักเสบเฉียบพลันรุนแรงในเด็กเล็ก
นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวว่า ตับอักเสบเฉียบพลัน คือ ภาวะที่มีการอักเสบของตับอย่างเฉียบพลัน โดยผู้ป่วยมักมีอาการ ดังนี้
- มีไข้
- อ่อนเพลีย
- เบื่ออาหาร
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- ปวดท้อง
- ตัวเหลือง ตาเหลือง
- ปัสสาวะสีเข้ม
- อุจจาระสีซีด
วิธีรักษาโรคตับอักเสบเฉียบพลัน
สำหรับการรักษา ขึ้นกับสาเหตุที่ทำให้เกิดตับอักเสบเฉียบพลัน ส่วนตับอักเสบเฉียบพลันซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ Adenovirus นั้น การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ ไม่มียารักษาเฉพาะ ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงจนเกิดภาวะตับวาย ผู้ป่วยมักมีการเปลี่ยนแปลงของระดับการรับรู้ ซึมลง เลือดออกผิดปกติ และอาจเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการปลูกถ่ายตับ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบจากการติดเชื้อ adenovirus ในประเทศไทย