“มะเร็งปอด” ไม่สูบบุหรี่ก็เสี่ยงได้ ภัยร้ายเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
Thailand Web Stat

“มะเร็งปอด” ไม่สูบบุหรี่ก็เสี่ยงได้ ภัยร้ายเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

“มะเร็งปอด” ไม่สูบบุหรี่ก็เสี่ยงได้ ภัยร้ายเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคมะเร็ง เป็นภัยร้ายสุขภาพ และยังเป็นปัญหาสำคัญทางด้านสาธารณสุขของทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย โรคมะเร็ง จัดเป็นสาเหตุหลักของการเสียเชียชีวิตมาเป็นอันดับ 1 ของคนไทยมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี  “มะเร็งปอด” ซึ่งถือเป็นภัยร้ายซ่อนเงียบที่อยู่ใกล้ตัว และยังถูกจัดเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของประเทศไทย

นายแพทย์ผดุงเกียรติ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ศัลแพทย์ทรวงอกด้านผ่าตัดส่องกล้องปอด โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ ระบุว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าความเสี่ยงหลักๆ ของมะเร็งปอด คือ บุหรี่ ยิ่งเราสูบบุหรี่มากขึ้น โอกาสที่จะเป็นมะเร็งปอด ร่วมกับอย่างอื่นด้วย เช่น หัวใจ หลอดเลือด สมอง ก็จะเป็นได้มากขึ้น แต่หลังๆ เราก็จะเจอว่า คนที่ไม่ได้สูบบุหรี่เลย ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งปอดได้เหมือนกัน

มะเร็งจะแบ่งเป็น 4 ระยะด้วยกัน คือ ระยะ 1-2 ก้อนมะเร็งจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก อาจจะมีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองขั้วปอดบ้าง โอกาสที่คนไข้จะมีอาการจากก้อนมะเร็งนี้ยังมีน้อย

ถ้าเราสามารถเจอคนไข้ในระยะที่ 1 โอกาสหายขาดสูงมากถึง 80% ขึ้นไป ถ้าเจอในระยะที่ 2 ก็จะค่อยๆ ลดลงมา 60% ระยะที่ 3 เหลือ 30% แต่ถ้าเจอในระยะที่ 4 ซึ่งเป็นระยะอันตรายของมะเร็งปอดแล้ว เนื่องจากระยะแรกๆ จะไม่ค่อยมีอาการบ่งบอก หลานคนก็เลยไม่ค่อยได้สังเกตุ ส่วนใหญคนไข้เกือบครึ่ง จะเจอในระยะที่ 4 แล้ว ทำให้โอกาสหายขาดน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย

ดังนั้นการตรวจคัดกรองสุขภาพมีความสำคัญมาก ซึ่งปัจจุบัน การคัดกรองมะเร็งปอด เราแนะนำด้วยการทำ Low-dose CT (Low-dose Computed Tomography) คือ การทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดแบบรังสีต่ำ การทำ Low-dose CT หนึ่งครั้ง เทียบได้กับการเอกซเรย์ปอดประมาณสัก 10-20 ครั้ง แล้วแต่การเซ็ทของแต่ละโรงพยาบาลว่าเป็นอย่าไร ซึ่งการทำ Low-dose CT จะสร้างภาพสามมิติ ทำให้เราสามารถเห็นจุดในปอดได้เล็กมาก เล็กขนาดประมาณ 1 - 3 มิลลิเมตร ก็เริ่มเห็นได้แล้ว แต่ถ้าเทียบกับเอกซเรย์ปอดที่ทำๆ กันิยู่นั้น จะเป็นการคัดกรองแบบหยาบๆ ก็จะเห็นก้อนได้อย่างเล็กที่สุด ประมาณสัก  1-2 เซนติเมตรขึ้นไป เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ใช่การคัดกรองที่ดีที่สุด เพราะว่าระยะที่ดีที่สุดคือ เจอระยะแรกๆ คือเจอตอนก้อนมะเร็งต่ำกว่า 1 เซนติเมตร และไม่มีการลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองหรือส่วนอื่นๆ จะมีโอกาสหายได้มากถึง 92% ดังนั้นการตรวจคัดกรองจึงสำคัญมากๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง

Advertisement

ส่วนโอกาสหายจากมะเร็ง หลัก ๆ ขึ้นอยู่กับว่า เราเจอมะเร็งในระยะที่เท่าไหร่ ถ้าเราเจอได้รวดเร็วมากขึ้น เราก็จะสามารถรักษาได้เร็วขึ้น ถ้าเราเจอคนไข้ในระยะที่ 1 ช่วงนี้ก็ดีที่สุด การรักษาก็จะง่าย ผ่าตัดอย่างเดียวก็เพียงพอ  แต่ถ้าเกิดว่าไปเจอในระยะที่ 2-3 ก็อาจจะต้องเพิ่มรักษาด้วยเคมีบำบัด หรือฉายแสง

โดยปัจจุบัน ถ้าเราคัดกรองเจอในขณะที่ก้อนมะเร็งยังเล็ก อยู่ในระยะที่ 1 หรือ 2 เราจะรักษาด้วยการผ่าตัดส่องกล้องมะเร็งปอด แต่ในบางกรณีที่เจอจุดเล็กมาก เช่นถ้าเราเจอจุดขนาดประมาณ 7 มิล การที่จะทำการวินิจฉัยด้วยวิธีอื่นนั้นค่อนข้างยาก ทางเราก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เราใช้ ระบบนำทางแม่เหล็กไฟฟ้า เรียกว่า Electromagnetic navigation bronchoscopy เป็นตัวนำทาง ลักษณะจะคล้ายๆ กับ Google Map ที่เราใช้ในโทรศัพท์เรา เป็นตัวไกด์ว่า จุดตรงนี้อยู่ตรงไหน พอเรามาร์คตำแหน่งได้ เราก็จะสามารถทำการผ่าตัดส่องกล้องแบบแผลเดียว เข้าไปผ่าตัดตรงบริเวณตรงนั้นออกมา แล้วก็ส่งไปตรวจวินิจฉัย ถ้าเกิดว่ายืนยันว่ามนเป็นมะเร็งปอด เราก็จะสามารถผ่าตัดรักษาทั้งกลีบออกต่อไปได้เลย

การคัดกรองมะเร็งเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะ รู้เร็วรักษาเร็ว ช่วยยับยั้งก่อนลุกลาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้