8 วิธีลดปัญหา ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ-หลับไม่สนิท
ผู้สูงอายุฝึกเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา รับประทานอาหารให้พอดี ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน งดสูบบุหรี่ ลดแอลกอฮอล์ งดอ่านหนังสือ งดดูโทรศัพท์มือถือและงดดูโทรทัศน์ก่อนเข้านอน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับในผู้สูงอายุให้มีคุณภาพที่ดี
ผู้สูงอายุ กับปัญหาการนอนหลับ
นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าเมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อาทิ การรับรสที่เปลี่ยนแปลงไป สายตามัวลง หูได้ยินไม่ชัดเจน ความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ทำให้ความสนใจต่อสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวลดลง รวมถึง การนอนหลับพักผ่อนของร่างกาย
ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาการนอนหลับ
พบว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้การนอนของผู้สูงอายุไม่มีคุณภาพ ได้แก่
- จำนวนชั่วโมงในการนอนลดลงเล็กน้อย
- มีการตื่นระหว่างคืนมากขึ้น
- มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
- โรคประจำตัวหรือยาบางชนิดที่ส่งผลต่อการนอนหลับบรรยากาศในบ้านพัก
- การขาดกิจกรรมระหว่างวัน
เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การนอนหลับในผู้สูงอายุมีคุณภาพลดลง ดังนั้น บุคคลในครอบครัวหรือผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุ และปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการนอนของผู้สูงอายุ เพื่อจะได้วางแผนการดูแลที่เหมาะสม
วิธีลดปัญหา ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ-หลับไม่สนิท
นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาภาวะนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ โดยทั่วไปแพทย์มักจะรักษาโดยไม่ใช้ยา แต่จะให้ผู้สูงอายุปรับพฤติกรรมในการใช้ชีวิต เช่น
- ฝึกเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา
- รับประทานอาหารให้พอดี
- ออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันในช่วงเช้าและบ่าย
- งดสูบบุหรี่
- ลดแอลกอฮอล์
- งดอ่านหนังสือ งดดูโทรศัพท์มือถือและงดดูโทรทัศน์ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 30 นาที
- หากผู้สูงอายุไม่สามารถออกไปข้างนอกได้เองหรือต้องนอนบนเตียงเป็นส่วนใหญ่ ผู้ดูแลจะต้องจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม
- สำหรับผู้ที่อยู่ร่วมกับผู้สูงอายุ ควรลดการทำกิจกรรมที่ส่งเสียงดังรบกวนการนอน
แพทย์อาจพิจารณารักษาโดยใช้ยา ซึ่งจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่แพทย์แนะนำ เนื่องจากระบบเผาผลาญและการทำลายยาในผู้สูงอายุจะทำงานลดลงทำให้ฤทธิ์ของยาตกค้างอยู่ในร่างกายนานกว่าปกติ หรือทำให้ร่างกายเกิดความเคยชินต้องใช้ยาที่มีขนาดสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น การรักษาโดยการใช้ยาจึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และผู้ดูแลควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดต่อผู้สูงอายุ