4 สภาพอากาศที่แตกต่าง มีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

4 สภาพอากาศที่แตกต่าง มีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง

4 สภาพอากาศที่แตกต่าง มีผลกระทบต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ส่งผลกระทบต่อเด็กๆ อย่างไร

ความแปรปรวนของสภาพอากาศ (Climate Variability) เป็นผลจากปัจจัยของลักษณะอากาศและสภาพแวดล้อมในช่วงเวลานั้นๆ ทว่าร่างกายของคนเราก็มีความสามารถในการปรับสมดุล ให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน แต่การปรับสมดุลของคนเรานั้น อาจทำไม่ได้รวดเร็วตามสภาพอากาศ และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปได้ เพราะฉะนั้นในผู้ที่ร่างกายปรับสมดุลไม่ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก อาจส่งผลกระทบทำให้เกิดความอ่อนเพลีย ความไม่สบายตัว ไปจนถึงทำให้เกิดโรคได้

บทความให้ความรู้ สำหรับเป็นคู่มือให้กับผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลาน โดย พญ.สิริรักษ์ กาญจนธีระพงค์  กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันวิทยา ศูนย์สุขภาพเด็ก (Children's Health Center) โรงพยาบาลนวเวช ได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นสาระความรู้ พร้อมคำอธิบายที่เข้าใจได้ง่าย ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองจะสามารถนำไปปรับใช้ในการดูแล และป้องกันไม่ให้บุตรหลานเกิดการเจ็บป่วย ในช่วงที่สภาพอากาศมีความแปรผันไปอย่างรวดเร็ว

ปัจจัยที่ทำให้สมดุลของร่างกายปรับเปลี่ยนได้อย่างเหมาะสม

  1. ปัจจัยภายนอก การเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ ภูมิอากาศ ฤดูกาล ภูมิประเทศ ส่งผลกระทบต่อสมดุลของร่างกายตลอดเวลา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว รุนแรง หรือมากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวไม่ทัน
  2. ปัจจัยภายใน การทานอาหาร การนอน และวิถีชีวิต ที่มีความแตกต่าง หรือไม่เหมาะสมกับช่วงอายุ หรือสมดุลของร่างกาย
  3. ปัจจัยที่เกิดจากสาเหตุของการบาดเจ็บภายนอก เช่น อุบัติเหตุ สัตว์ทำร้าย หรือไฟไหม้

สภาพอากาศที่ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกาย

  1. ลม มักจะพัดพาฝุ่นละอองต่างๆ เข้าสู่ใบหน้า ศีรษะ ทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ของจมูกและตา และอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หวัด คออักเสบ หลอดลมอักเสบ
  2. ความเย็น มักจะโจมตีจากฝ่าเท้า ทำให้สูญเสียการรักษาสมดุลต่างๆ ในร่างกาย ส่งผลให้ร่างกายมีของเสียคั่งค้างได้เยอะ หรือความสามารถในการกำจัดของเสียลดลง ทำให้เกิดความอ่อนเพลียสะสมได้ง่าย ระบบย่อยอาหารมีปัญหา เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้อง และท้องผูกได้ง่าย
  3. ความชื้น ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบผิวหนัง และระบบขับถ่าย ในการกำจัดของเสีย ส่งผลให้เกิดอาการของระบบทางเดินหายใจ และความอับชื้นต่างๆ ในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ง่าย เช่น มีกลิ่นอับชื้นต่างๆ คราบไคล และเพิ่มความเสี่่ยงในการเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ด้วย
  4. ความแห้ง ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ และระบบผิวหนัง เช่น ทางเดินหายใจแห้ง ทำให้มีเลือดกำเดาออกได้ง่าย ตาแห้ง แพ้แสง ไปจนถึงเกิดอาการไอเรื้อรัง เกิดผื่นแพ้ หรือผื่นคันได้ง่ายมากขึ้นเช่นเดียวกัน

ในช่วงที่อากาศแปรปรวนสลับไปมาระหว่าง ฝนตก ความชื้น และอากาศร้อน สิ่งสำคัญคือผู้ปกครองต้องหมั่นดูแลบุตรหลาน โดยหัวข้อหลักใหญ่ๆ ที่ต้องดูแล คือ

  1. ดูแลการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะ อาหารปรุงสุก น้ำดื่มต้องเป็นน้ำสะอาด หรือน้ำอุ่น
  2. ดูแลให้หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอๆ
  3. ดูแลด้วยการพาไปออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มสมดุลของร่างกาย ระบายความร้อน และการขับของเสีย เช่น เหงื่อ
  4. ดูแลให้พักผ่อนอย่างเพียงพอ ห้องนอนต้องปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทสะดวก เพื่อเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
  5. ดูแลเด็กๆ ที่มีโรคประจำตัว ผู้ปกครองควรจะต้องศึกษาข้อมูล หรือสอบถามแพทย์ผู้ดูแล เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง หรือการดูแลเป็นพิเศษ และควรมียาติดตัวอยู่เสมอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook