คันหัว-มีรังแค แก้ปัญหาอย่างไรถึงจะได้ผล
การใช้แชมพูขจัดรังแค จะเป็นวิธีที่ถูกต้องในการแก้ปัญหารังแค คันหนังศีรษะหรือไม่
รองศาสตราจารย์ ดร.พิมลพรรณ พิทยานุกุล ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า รังแค มาจาก เซลล์ที่ตายแล้วของหนังศีรษะที่ถูกผลัดออกจะสะสมเป็นกลุ่มก้อนหนาๆ สังเกตได้เวลาหวีผมหรือเกา จะหลุดออกเป็นเกล็ดขาวๆ ออกมาให้เห็น
อันตรายของหนังศีรษะที่มีรังแค
ผู้ที่มีปัญหารังแคเรื้อรัง อาจทำให้หนังศีรษะอักเสบและมีเชื้อราเจริญเติบโตมากผิดปกติ ซึ่งในสภาวะปกติหนังศีรษะคนเราจะมีเชื้อราอาศัยอยู่ในปริมาณน้อยและไม่ก่อให้เกิดปัญหา แต่ในสภาวะที่หนังศีรษะมีรังแคมาก เชื้อราจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดอาการอักเสบของหนังศีรษะ (Pityriasis capitis) ถ้าอาการรุนแรงขึ้น หนังศีรษะจะมีอาการแดงและมีรังแคเป็นเกร็ดใหญ่ขึ้นและเหลืองเป็นไข ซึ่งเป็นอาการของต่อมไขมันของหนังศีรษะอักเสบ พบมากและบ่อยในวัยรุ่นและอาจมีอาการอักเสบลามถึงเปลือกตาได้
วิธีลดปัญหาคันหนังศีรษะ มีรังแค
- ไม่เกาหนังศีรษะระหว่างสระผมรุนแรงเกินไป อาจทำให้หนังศีรษะถลอก แสบ ติดเชื้อ หรืออาจทำให้เส้นผมขาด หลุดร่วงง่ายกว่าเดิม
- เลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อมอบความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ ช่วยให้หนังศีรษะไม่แห้ง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาหนังศีรษะแห้งโดยเฉพาะ หรือผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ เช่น น้ำมันนวดหนังศีรษะ
- สามารถใช้แชมพูที่ช่วยขจัดรังแคได้ โดยอาจใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง สลับกับแชมพูที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ
- สระผมด้วยน้ำอุณหภูมิธรรมดา หรืออุณหภูมิห้อง งดการสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้หนังศีรษะยิ่งแห้ง
- ลดการเป่าลมร้อนที่หนังศีรษะจากไดร์เป่าผม เปลี่ยนเป็นลมเย็น หรือเป่าให้ห่างจากหนังศีรษะ
- หากทุกวิธีไม่ได้ผล อาจทดลองเปลี่ยนมาใช้แชมพูสระผมผสมสารต้านเชื้อรา ที่มีจำหน่ายตามร้ายขายยา ใช้ติดต่อกัน 1-2 สัปดาห์ หากอาการคันศีรษะหายเป็นปกติ ควรหยุดการใช้แชมพูยา และใช้แชมพูปกติแทน ไม่แนะนำให้ใช้แชมพูยาต้านเชื้อราต่อเนื่องเป็นประจำ เพราะจะทำให้เชื้อดื้อ และใช้ครั้งต่อๆไปจะไม่ได้ผลอีก