ประโยชน์ของ มัลเบอร์รี่ และวิธีกินของคนญี่ปุ่น
ผลมัลเบอร์รี่ (Mulberry) หรือ ลูกหม่อน เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงเดือนมิถุนายน และมีจำหน่ายเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ในญี่ปุ่น มารู้ประโยชน์ของมัลเบอร์รี่และวิธีการนำมาแปรรูปเพื่อเก็บไว้รับประทานได้นานๆ ตามแบบคนญี่ปุ่นกัน
ประโยชน์ของมัลเบอร์รี่
มัลเบอร์รี่ หรือ ลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่สุกแล้วมีสีม่วงออกดำ มีหลากหลายพันธุ์ที่มีความหวานตั้งแต่ 8-15 บริกซ์ มีรสชาติที่สมดุลระหว่างรสเปรี้ยวและรสหวาน มัลเบอร์รี่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนี้ วิตามินซี ในปริมาณที่เท่ากับส้มแมนดารินและเกรปฟรุต (33 มิลลิกรัม ต่อมัลเบอร์รี่ 100 กรัม) โดยวิตามินซีมีบทบาทสำคัญในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายดีขึ้น และช่วยกดการผลิตสารเมลานินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าและรอยกระ เป็นต้น โพแทสเซียม (194 มิลลิกรัม ต่อมัลเบอร์รี่ 100 กรัม) มัลเบอร์รี่ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง โดยแร่ธาตุชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยขับเกลือส่วนเกินออกจากร่างกาย จึงช่วยป้องกันการบวมน้ำของร่างกายได้ดี และ แอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งช่วยป้องกันโรคมะเร็งและชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ดี
คนญี่ปุ่นนำผลมัลเบอร์รี่สุกมารับประทานกับโยเกิร์ต ทำน้ำผลไม้ ทำแยม และทำเหล้ามัลเบอร์รี่ โดยมีวิธีการทำ ดังนี้
วิธีการทำแยมมัลเบอร์รี่
วัตถุดิบ
- ผลมัลเบอร์รี่่ 150-300 กรัม
- น้ำตาลทราย 1/4 ของปริมาณมัลเบอร์รี่่
- น้ำมะนาว เล็กน้อย
วิธีการทำ
1. ล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากผลมัลเบอร์รี่ ดึงขั้วผลออก แล้วเทน้ำทิ้งผ่านตะแกรง
2. นำผลมัลเบอร์รี่ใส่ในกระทะ เติมน้ำตาลลงไป ผสมให้เข้ากัน วางไว้ 30-60 นาทีเพื่อให้น้ำตาลละลาย เติมน้ำมะนาวลงไป แล้วนำเคี่ยวบนไฟอ่อน
3. คอยตักเอาฟองออกจากกระทะ และปิดไฟเมื่อแยมเริ่มจับตัวเป็นของแข็ง
4. วางไว้จนแยมเย็นแล้วจึงตักใส่ภาชนะมีฝาปิด และเก็บไว้ในตู้เย็น
วิธีการทำเหล้ามัลเบอร์รี่
วิธีการทำเหล้ามัลเบอร์รี่คล้ายกับวิธีการทำเหล้าบ๊วยหรือเหล้าแอปริคอต ซึ่งทำได้ดังนี้
วัตถุดิบ
- ขวดมีฝาปิดที่ผ่านการฆ่าเชื้อโดยการต้มหรือใช้เหล้าโชจู
- ผลมัลเบอร์รี่และน้ำตาลกรวดในปริมาณที่เท่ากัน
- สาเก ได้แก่ โชจู หรือ เหล้าขาว
วิธีทำ
1. ล้างฝุ่นและสิ่งสกปรกออกจากผลมัลเบอร์รี่ ดึงก้านผลออก จากนั้นเทน้ำทิ้งผ่านตะแกรง และวางไว้จนสะเด็ดน้ำ
2. วางเรียงผลมัลเบอร์รี่่สลับชั้นกับน้ำตาลกรวดในขวดที่ผ่านการฆ่าเชื้อ โดยเรียงให้น้ำตาลกรวดอยู่ชั้นบนสุด
3. เทโชจูหรือเหล้าขาวลงไปจนท่วมน้ำตาลและผลมัลเบอร์รี่่ เก็บไว้ในที่เย็นเป็นเวลา 1-2 เดือน หลังจากครบกำหนดแล้วก็นำเหล้ามัลเบอร์รี่มาผสมโซดาหรือน้ำ ดื่มได้ตามชอบ
เมืองไทยเราสามารถหาซื้อลูกหม่อนหรือมัลเบอร์รี่ได้ง่ายและราคาถูก หากชอบรสชาติเปรี้ยวอมหวานและกลิ่นหอมของผลไม้ชนิดนี้ ก็ลองนำมาทำแยมหรือเหล้ามัลเบอร์รี่ดู