10 อาหารวิตามินเอสูง บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกันโรค

10 อาหารวิตามินเอสูง บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกันโรค

10 อาหารวิตามินเอสูง บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกันโรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาหารที่ช่วยบำรุงสายตา และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ในร่างกาย จะมีอะไรบ้าง

“วิตามินเอ” เป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและเราควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายเป็นประจำ โดยแนะนำให้กินผ่านอาหารจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายได้มากกว่า

ประโยชน์ของวิตามินเอ

  1. ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจุดภาพชัดเสื่อมในผู้สูงอายุ
  2. ส่งเสริมการทำงานของระบบสืบพันธุ์ของทั้งผู้ชายและผู้หญิง ช่วยสร้างอสุจิและไข่ให้แข็งแรง และช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านสายตาของตัวอ่อนในครรภ์
  3. ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และอาจช่วยรักษาโรคติดเชื้อได้หลายชนิด เช่น วัณโรค โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคติดเชื้อในเด็ก
  4. ช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งช่องจมูก มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งต่อมน้ำเหลือง

อาหารที่มีวิตามินเอสูง

  1. ผักใบเขียวเข้ม เช่น คะน้า ปวยเล้ง บรอกโคลี
  2. ผักสีส้ม สีเหลือง เช่น แคร์รอต มันเทศ ฟักทอง และผักตระกูลน้ำเต้า
  3. มะเขือเทศ
  4. พริกหวานสีแดง
  5. แคนตาลูป
  6. มะม่วง
  7. ตับวัว
  8. น้ำมันปลา
  9. นม
  10. ไข่

เป็นต้น

อันตรายจากการขาดวิตามินเอ

วิตามินเอ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพ โดยมีบทบาทสำคัญต่อระบบการมองเห็น การเจริญเติบโต การสร้างภูมิคุ้มกันโรค รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุผิวต่างๆแหล่งอาหารที่มีวิตามินเอสูงได้แก่ ตับ ไข่แดง นม เนื้อสัตว์ ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลือง

หากขาดวิตามิน หรือมีวิตามินในร่างกายไม่เพียงพอ อาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้ ได้แก่

  1. มองไม่เห็นในที่แสงน้อย หรือมีอาการตาบอดสีในเวลากลางคืน
  2. เยื่อบุตาแห้ง หรืออาการตาแห้ง
  3. เสี่ยงมีอาการตาวุ้น พบได้หลังระยะตาแห้งไปแล้ว โดยจะมีอาการลักษณะตาขุ่น เหลว เนื่องจากดวงตาได้รับการติดเชื้อหรือติดเชื้อได้ง่าย และไวกว่าอาการตาแห้ง
  4. เสี่ยงโรคผิวหนัง เนื่องจากวิตามินเอมีส่วนสำคัญในการรักษาสภาพเยื่อบุผิวหนัง การขาดวิตามินเอจึงทำให้ผิวพรรณขาดความชุ่มชื้น และหยาบกร้านได้ จนอาจนำไปสู่โรคทางผิวหนัง เช่น สิว หรือการติดเชื้อทางผิวหนัง
  5. เสี่ยงภูมิต้านทานต่ำ เสี่ยงโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และเสี่ยงต่อเกิดการอักเสบในโพรงจมูก ช่องปาก คอ และที่ต่อมน้ำลาย ทั้งยังส่งผลให้ติดเชื้อไวรัส ทำให้เป็นหวัดง่ายอีกด้วย

ปริมาณการกินวิตามินเอที่เหมาะสม

ปริมาณวิตามินเอที่เหมาะสมกับร่างกาย คือ 5,000 IU เป็นขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันสำหรับผู้ใหญ่เพศชาย และ 4,000 IU สำหรับเพศหญิง

โดยปริมาณวิตามินเอที่เหมาะสมจากอาหารอาจไม่ได้ระบุจากอาหารได้อย่างแน่ชัด ควรมีการกินอาหารที่มีวิตามินเอในชีวิตประจำวันอยู่เรื่อยๆ วันละนิดวันละหน่อยไม่ให้ขาด เท่านี้ก็ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดวิตามินเอได้ง่ายๆ แล้ว และที่สำคัญ หากรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อวิตามินเอในรูปแบบของอาหารเสริมมารับประทานเพิ่มแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook