จริงหรือไม่? สีของ “ประจำเดือน” บอกโรคได้?
จากที่มีข้อมูลแชร์กันในโลกออนไลน์ ว่า “สีของประจำเดือน บอกอะไร?” โดยอธิบายลักษณะของสีเลือดประจำเดือนว่า เป็นสีชมพู สีแดงจัด สีแดงเข้ม สีแดงส้ม สีน้ำตาล ว่าแบบไหนสุขภาพดีปกติ หรือแบบไหนเป็นอันตราย ต้องรีบพบแพทย์นั้น ทางเฟซบุ๊คเพจ ใกล้มิตรชิดหมอ เปิดเผยว่า อันที่จริงแล้ว สีของประจำเดือน ไม่ได้บอกปัญหาสุขภาพอะไรเป็นพิเศษ เพราะนอกจากสีของประจำเดือนแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมาย ในการตรวจหาความผิดปกติของประจำเดือน
ประจำเดือนผิดปกติ ตรวจดูได้จากสิ่งใดบ้าง?
1. ความสม่ำเสมอ
รอบเดือนปกติจะอยู่ในช่วงประมาณ 28 +/- 7 วัน
หลายๆ คนมักมาปรึกษาหมอว่าประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่ตรง อยากให้มาตรง พอซักไปซักมา คือ คลาดเคลื่อน 1-2 วัน เช่น
เดือนมีนาคมมาวันที่ 17
เดือนเมษามาวันที่ 13
เดือนพฤษภาคมมาวันที่ 10
ลองคำนวณขีดบนปฏิทินดูนะคะ จะพบว่ารอบเดือนเป็น 28 วันพอดีเป๊ะ เพราะว่าปฏิทินในแต่ละเดือนไม่ได้มีแค่ 28 วัน วันที่แต่ละเดือนที่ประจำเดือนมาจึงไม่ได้ตรงกัน เป็นเรื่องปกติค่ะ แต่ถ้าอยู่ในช่วงที่ปกติ ก็คือ สม่ำเสมอค่ะ
2. ปริมาณ
ปริมาณ คือ มากี่วัน ใช้ผ้าอนามัยวันละกี่แผ่น โดยปกติประมาณ 3-7 วัน
3. ลักษณะ
สังเกตลักษณะของประจำเดือน ว่ามาแบบไหน มีก้อนเลือดปนมั้ย และอาจจะถามเรื่องสีตรงนี้ ซึ่งสีอะไร ก็ไม่ได้บอกอะไรมาก
สีของประจำเดือนบอกอะไรได้จริงๆ หรือ?
ปกติเลือดประจำเดือนเป็นสีแดงสด เหมือนเลือดเวลาเจาะเลือดทั่วๆไป จะเป็นสีแดงคล้ำ แดงเชอรี่ หรืออะไรก็แล้วแต่ ได้หมดและจะไม่แข็งตัวเป็นก้อนเมื่ออยู่ในโพรงมดลูก ยกเว้นถ้ามีเลือดออกมาปริมาณมาก อาจจะมีการค้างและจับตัวเป็นก้อนในช่องคลอดได้
การที่ประจำเดือนเป็นก้อนๆ จึงไม่ได้เกิดจากการกินน้ำแข็งเวลามีประจำเดือนนะคะ แต่เมื่อใช้ประกอบกับประวัติที่ว่ามีประจำเดือนมามาก ก็อาจจะเป็นตัวช่วยสนับสนุนว่าน่าจะมามากจริง
ถ้าสีน้ำตาลหรือสีแดงคล้ำ ไม่ได้บอกว่ามีเลือดค้าง หรือขับเลือดเก่าอย่างที่แชร์ๆ กันนะคะ
คุณสมบัติของเลือด ถ้าเราลองเจาะเลือดจากเส้นเลือดแล้วตั้งทิ้งไว้สัมผัสกับอากาศ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงการจับตัวของออกซิเจน (ขออธิบายแบบง่ายๆ ให้คนทั่วไปเข้าใจง่ายๆ แบบนี้แล้วกันนะคะ) ทำให้มีสีคล้ำขึ้น
ปกติในโพรงมดลูกไม่มีอากาศ แต่ในช่องคลอดและภายนอกร่างกายจะมีอากาศ เมื่อเลือดที่ไหลจากโพรงมดลูกลงมาที่ช่องคลอดแล้วลงในผ้าอนามัยเลยก็จะแดงสดกว่าหน่อย จะพบในช่วงวันแรกๆ หรือช่วงที่ประจำเดือนมามากๆ พอวันหลังๆ เยื่อบุโพรงมดลูกเริ่มหลุดลอกหมด เลือดเริ่มน้อยลง มดลูกบีบตัวน้อยลง เลือดไหลช้าลง ใช้เวลาไหลอยู่ในช่องคลอดนานขึ้น ได้สัมผัสอากาศนานขึ้นกว่าจะลงมาถึงผ้าอนามัยสีประจำเดือนก็เข้มขึ้นหน่อย ก็อาจจะมีสีน้ำตาลหรือแดงคล้ำได้
สรุปคือ ถ้าไม่มีลักษณะอื่นๆ ร่วมด้วย สีของประจำเดือน ไม่ได้เป็นตัวบอกโรคหรือภาวะผิดปกติใดใด และไม่สามารถบอกได้ว่าตั้งครรภ์หรือไม่จากสีเลือดประจำเดือน (ถ้าตั้งครรภ์ ต้องไม่มีประจำเดือนนะคะ)
ประจำเดือน = เลือดเสีย?
ประจำเดือน ไม่ใช่เลือดเสีย แต่เป็นเยื่อบุโพรงมดลูกที่ตอบสนองต่อฮอร์โมน เพื่อเตรียมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนเหมือนเป็นเบาะนุ่มๆ ถ้าไม่มีการฝังตัวก็หลุดลอก เพื่อสร้างเบาะนุ่มๆ ที่มีคุณภาพใหม่ให้ตัวอ่อนต่อไป
ทั้งนี้ หากมีอาการข้างเคียงอื่นๆ เช่น ปวดท้องประจำเดือนหนักมากผิดปกติ หรือมีประจำเดือนไม่สม่ำเสมอจนเกินไป ประจำเดือนมามาก มาน้อยเกินไป ควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยละเอียดอีกครั้งค่ะ