หมอเด็กเตือน "เขย่าตัวเด็กเล็ก" อันตรายถึงชีวิต

การอุ้มเด็กเล็กขึ้นมาเขย่าแรงๆ หรือการวางเด็กไว้บนกระจาดแล้วกระแทกพื้น อาจทำให้เด็กเสียชีวิตได้

ผศ.นพ. วรวุฒิ เชยประเสริฐ กุมารแพทย์เฉพาะทางด้านโลหิตวิทยา และมะเร็งในเด็ก จากเฟซบุ๊กเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ระบุถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก เมื่อพ่อแม่อุ้มเด็กแล้วเหวี่ยงเด็กไปมาเพื่อกล่อมอย่างรุนแรง หรือการวางเด็กบนกระจาดแล้วกระแทกลงบนพื้นแรงๆ รวมไปถึงการโยนหรือเขย่าเพื่อการเล่นกันหรือกล่อมเด็กไม่ให้ร้องเสียงดัง การกระทำเหล่านี้ทำอันตรายต่อร่างกายของเด็กได้ และอาจอันตรายถึงขั้นทำให้เด็กเสียชีวิตได้

รู้จัก Shaken Baby Syndrome

Shaken Baby Syndrome หรือกลุ่มอาการที่เกิดจากการเขย่าเด็ก คือ การทำทารุณกรรมเด็กที่รุนแรงชนิดหนึ่ง โดยเกิดจากการเขย่าหรือโยนเด็กเล็กด้วยเหตุต่างๆ โดยเฉพาะจากความโกรธ หงุดหงิดของผู้เลี้ยงที่เด็กไม่ยอมหยุดร้องไห้เสียที บางส่วนเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มักเกิดขึ้นกับเด็กที่มีอายุเด็กต่ำกว่า 2 ขวบ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงขวบแรกของชีวิต)

อันตรายจากภาวะ Shaken Baby Syndrome

เมื่อคอเด็กยังไม่แข็ง และศีรษะเด็กโต ทำให้การเขย่าเด็กไปมาจึงทำให้สมองของเด็กถูกเหวี่ยงไปในมาอยู่ในกะโหลกศีรษะที่เป็นพื้นที่ปิด และหากเหวี่ยงแล้วถูกกระแทกด้วยอย่างการจับเด็กกระแทกที่พื้นหรือกำแพงด้วย ยิ่งจะเกิดแรงกระชากอย่างรุนแรงได้ เป็นเหตุให้เกิดเลือดออกตามที่ต่างๆ ได้ เช่น เยื่อหุ้มสมอง โพรงสมอง จอประสาทตา ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นประสาทได้ จึงเป็นเหตุให้สมองส่วนที่มีเลือดออกบวมและขาดอากาศไปเลี้ยง เกิดอันตรายแบบถาวรได้ 

บางคนเลือดออกเยอะจนความดันในช่องกะโหลกสูง อาจเกิดอาการชัก และเสียชีวิตในเวลาต่อมาได้ และยังอาจพบอาการกะโหลกแตก และกระดูกสันหลังช่วงคอที่อาจพบร่วมกันได้ด้วย

นอกจากนี้ การพยากรณ์โรคมักแย่ เพราะมักเป็นรุนแรงมากกว่าจะถึงมือแพทย์

การป้องกันที่ดีที่สุด คือการหยุดเขย่าตัวเด็ก ไม่ว่าจะมีจุดประสงค์เพื่อปลอบโยนไม่ให้ร้อง การเล่นด้วยกับเด็ก เห็นเด็กหัวเราะชอบใจเลยโยนหรือเขย่าแรงๆ หรือบันดาลโทสะจากผู้ปกครอง หรือพี่เลี้ยงเด็ก ไม่ว่ากรณีใดก็ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดความผิดปกติและอันตรายต่างๆ กับเด็กทั้งในปัจจุบันและอนาคต