กินยา "พาราเซตามอล" ทุกวันอันตรายไหม
ยาพารา หรือชื่อเต็ม พาราเซตามอล เป็นยาสามัญประจำบ้าน เป็นยาสำหรับลดไข้ บรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เป็นหนึ่งในยาที่ผู้คนเลือกใช้แรกๆ เมื่อมีอาการป่วย แต่ยาพาราเซตามอล กินแบบไหนถึงจะถูกต้อง กินต่อเนื่องจะอันตรายไหม วันนี้เรามาดูกัน
รู้จักยาพาราเซตามอลกันก่อน ว่ามีสรรพคุณอะไร
พาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยาในกลุ่มลดไข้ บรรเทาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยจากไข้หวัด ปวดฟัน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดหลัง และปวดจากข้อเสื่อม
ขนาดยาพาราที่แนะนำให้ใช้ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ยาพาราเซตามอลเป็นยาแก้ปวดลดไข้ มี 2 ขนาด คือ ขนาด 325 มิลลิกรัม และขนาด 500 มิลลิกรัม ซึ่งต้องกินตามน้ำหนักตัว โดยการกินยาแต่ละครั้ง ควรกินห่างกันอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมง และใช้เฉพาะเมื่อมีอาการ เช่น ปวดหรือมีไข้
ขนาดยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง ควรกินตามน้ำหนักตัว โดยในการกินยา 1 ครั้ง แนะนำให้ใช้ยาขนาด 10-15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) ถ้าหากนำน้ำหนักตัวมาคำนวณแล้วเกินกว่า 10-15 มิลลิกรัม/น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) แปลว่าใช้ยาเกินขนาด ซึ่งอาจทำให้เกิดพิษร้ายแรงต่อตับได้
ยาพาราเซตามอล ขนาด 325 มิลลิกรัม
- น้ำหนัก 45-67 กิโลกรัม กิน 2 เม็ด
- น้ำหนัก 34-44 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดครึ่ง
- น้ำหนัก 22-33 กิโลกรัม กิน 1 เม็ด
ยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม
- น้ำหนัก 67 กิโลกรัมขึ้นไป กิน 2 เม็ด
- น้ำหนัก 51-67 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดครึ่ง
- น้ำหนัก 33-50 กิโลกรัม กิน 1 เม็ด
สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวต่ำกว่า 22 กิโลกรัม ไม่ควรรับประทานยาพาราเซตามอลแบบเม็ดทุกขนาด ควรเข้าพบแพทย์โดยตรงเพื่อปรึกษาอาการและยาที่ควรใช้
อาการของการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาด
หากรับประทานยาพาราเกินขนาด อาจมีอาการแสดงของการใช้ยาเกินขนาดจะแสดงใน 1-3 วัน มีทั้งหมด 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เหงื่อออก เป็นระยะสั้น ๆ โดยจะเกิดภายใน 24 ชั่วโมง บางรายอาจไม่มีอาการ
- ระยะที่ 2 หลังกินยาระหว่าง 24-48 ชั่วโมง ไม่มีอาการแสดง แต่เมื่อเจาะเลือดจะพบว่าเอนไซม์ทรานซามิเนส (transaminase) เริ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่แสดงถึงการบาดเจ็บของตับ
- ระยะที่ 3 หลังกินยาไปแล้ว 48 ชั่วโมง มีอาการตับอักเสบ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารอีกครั้ง มีภาวะแทรกซ้อนเหมือนตับอักเสบทั่วไป หากรุนแรงอาจมีอาการสมองเสื่อมจากโรคตับ และเสียชีวิตได้หากได้รับการรักษาไม่ทันท่วงที
กินยาพาราทุกวันอันตรายไหม?
จากข้อมูลของโรงพยาบาลต่างๆ ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า ไม่ควรรับประทานยาพาราติดต่อกันเกิน 5 วัน หากต้องใช้ยานานกว่านั้นควรปรึกษาแพทย์ เหตุผลหลักๆ คือ
- 1.การใช้ยาพาราติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้ตับทำงานบกพร่อง
- 2.โดยปกติหากเกิน 5 วันแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ควรให้แพทย์ตรวจเพื่อหาสาเหตุเพิ่ม
ยาพาราแม้จะเป็นยาสามัญประจำบ้านที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการปวด ลดไข้ ที่นึกถึงอันดับแรกๆ ดูแล้วเป็นยาที่ไม่อันตราย แต่อย่างไรก็ควรรับประทานให้ถูก อ่านฉลากให้ดี ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหากต้องใช้นานกว่าที่กำหนด