“กินเจ” กับข้อควรระวังที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าเดิม
การกินเจ หลายคนกินเพื่อลดการเบียดเบียนสัตว์ บางคนกินเพื่อสุขภาพ แต่หากกินไม่ถูกวิธี อาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าที่คิด
“กินเจ” กับข้อควรระวังที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าเดิม
-
ควรลดการบริโภคเนื้อสัตว์เทียม
ผศ. พญ.ดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร สาขาวิชาโภชนวิทยาและชีวเคมีทางการแพทย์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ ระบุไว้ในรายการ Rama Channel ว่า เมื่อไรก็ตามที่กินเจ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารแปรรูป ในเมนูอาหารเจมีอาหารแปรรูปจำพวกเนื้อสัตว์เทียมเป็นส่วนประกอบอยู่มาก ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นอาหารที่แปรรูปจากอาหารปกติ อาจมีอันตรายกับร่างกายในอนาคตได้ เช่นเดียวกันกับอาหารแปรรูปทั่วไปที่มีผลงานวิจัยหลังการบริโภคมา 10-20 ปีว่าเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้ เนื้อสัตว์เทียมเหล่านี้ก็เช่นเดียวกัน ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารแปรรูป มักแฝงอันตรายเสมอ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารแปรรูป แล้วเลือกกินอาหารที่ปรุงสดใหม่จากวัตถุดิบธรรมชาติแท้ๆ จะดีกว่า
อย่างไรก็ตาม หากใครที่กินเจแค่ 10 วันเท่านั้น ไม่ได้กินต่อยาวๆ การกินเนื้อสัตว์เทียมแค่บางมื้อ ยังสามารถทำได้ ไม่ได้ส่งผลอันตรายระยะยาวต่อร่างกายมากขนาดนั้น แต่ใครที่อยากกินเจในระยะยาว ควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์เทียมจะดีกว่า
-
ควรเลี่ยงอาหารทอด มัน และที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบบ่อยๆ
หลายคนอาจคิดว่าทำไมกินเจแล้วอ้วนกว่าเดิม ผศ. พญ.ดรุณีวัลย์ ระบุว่า อาหารเจไม่ได้ทำให้อ้วนกว่าเดิม แต่ขึ้นอยู่กับคนที่เลือกกิน พยายามหลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารทอด เหมือนเวลากินอาหารตามปกติ และอย่าลืมว่าเราต้องกินโปรตีนให้ถึงกับความต้องการของร่างกาย เมื่อเรางดการบริโภคเนื้อสัตว์ไป เราต้องกินโปรตีนจากแหล่งอาหารอื่นทดแทน เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ข้าวผสมธัญพืช เพื่อให้มีโปรตีนเพิ่มขึ้นในแต่ละมื้อ
นอกจากนี้ ระหว่างกินเจ ยังสามารถออกกำลังกายได้อย่างปกติ และอย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เชื่อว่ากินเจรอบนี้ ไม่ได้ทำให้อ้วนขึ้น แต่ยังได้สุขภาพที่ดีขึ้นตามมาอย่างที่คาดการณ์ไว้แน่นอน