5 วิธีปรับอาหารเช้า ช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล

5 วิธีปรับอาหารเช้า ช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล

5 วิธีปรับอาหารเช้า ช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หากปรับวิธีการกินอาหารเช้าได้ง่ายๆ ตามนี้ รับรองว่าน้ำหนักลดลง และสุขภาพดีขึ้นได้แน่นอน

นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป แนะนำวิธีปรับการกินอาหารเช้าง่ายๆ ที่ทุกเพศทุกวัยทำตามกันได้ นอกจากจะช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผลแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพดีขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคอันตราย เช่น เบาหวาน ไขมันพอกตับ ไขมันในเลือดสูง ได้อีกด้วย

5 วิธีปรับอาหารเช้า ช่วยลดน้ำหนักอย่างได้ผล

  1. หลังตื่นนอน ดื่มน้ำ 300 cc. อย่าเพิ่งรีบกินอาหารเช้า

หลังเรานอนมากว่า 6-8 ชั่วโมง และก่อนนอนเราอาจไม่ได้กินอะไรมาอีก 2 ชั่วโมง และเราสามารถงดการกินอาหารออกไปได้อีก 3-4 ชั่วโมง รวมๆ แล้วเราสามารถงดเว้นจากมื้ออาหารไปได้นานถึง 12 ชั่วโมง หลังจากที่เรางดเว้นมื้ออาหารไปได้ถึง 12 ชั่วโมง ร่างกายจะเริ่มเผาผลาญไขมันมาเป็นพลังงาน นอกจากนี้การดื่มน้ำหลังตื่นนอนราวๆ 2 แก้ว จะช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันทำได้ดีขึ้นอีกด้วย

  1. กระตุ้นระบบเผาผลาญด้วยคาเฟอีน

คาเฟอีน มีอยู่ในเครื่องดื่มหลายอย่าง ส่วนใหญ่ที่หาดื่มได้ง่ายๆ จะเป็นชาและกาแฟ (ที่ไม่เติมอย่างอื่นเลย ไม่เติมน้ำตาล และไม่เติมสารทดแทนความหวานด้วย) ควรเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในตอนเช้า การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในตอนเช้าช่วยเพิ่มการทำงานของระบบเผาผลาญพลังงาน ช่วยให้ออกกำลังกายได้ดีขึ้น กล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้น ความทนทานในการออกกำลังกายมากขึ้น ร่างกายสามารถถึงไขมันไปเผาผลาญได้มากขึ้น

สามารถเลือกดื่มชาหรือกาแฟในช่วงเช้าได้ 1-2 แก้ว แต่ไม่ควรดื่มหลังเวลา 15.00 น. เพราะอาจเสี่ยงนอนไม่หลับได้

  1. ขยับมื้อเช้าให้สายทีละนิด (ขยับมื้อเย็นให้เร็วขึ้นอีกหน่อย)

การขยับมื้ออาหารเช้าและเย็นให้ใกล้กันมากขึ้นกว่าเดิม คือการทำ IF หรือ Intermittent Fasting นั่นเอง เช่น การขยับมื้อเช้ามาเป็นมื้อสายๆ และขยับมื้อค่ำให้ค่อยๆ เร็วขึ้นจาก 19.00 น. เป็น 18.00 น. หรือ 17.00 น. จะช่วยให้ร่างกายของเราได้มีเวลาในส่วนที่ “งดมื้ออาหาร” ยาวนานขึ้น

การทำ IF นอกจากจะช่วยเรื่องลดน้ำหนักแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวม เช่น การอักเสบของร่างกายลดลง อายุยืนขึ้น ภูมิคุ้มกันดีขึ้น หัวใจแข็งแรงขึ้น ค่าน้ำตาลดีขึ้น เป็นต้น

  1. เดินรับแดดตอนเช้าขณะท้องว่าง

การออกกำลังกายในตอนเช้าขณะท้องว่าง ช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากขึ้น นอกจากนี้การออกไปให้ผิวหนังสัมผัสแสงแดดในตอนเช้า ช่วยเพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกาย และกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว โดยสามารถออกมาเดินรับแสงแดดได้ในช่วงก่อน 9.00 น.

  1. เลือกกินอาหารเช้าที่โปรตีนสูง และไขมันดีสูง

ควรรับประทานอาหารมื้อแรกของวันด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนดีสูง กากใยอาหารสูง ไขมันดีสูง และมาจากธรรมชาติ จะทำให้เรารู้สึกอิ่ม มีความสุข และไม่รู้สึกหิวบ่อย

สามารถเลือกกินเนื้อสัตว์ไขมันต่ำ อาหารทะเล ไข่ ผลิตภัณฑ์จากนมต่างๆ ผัก น้ำมันมะกอก ฯลฯ ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook