7 ความเชื่อผิดๆ ยอดฮิตของการลดน้ำหนัก

7 ความเชื่อผิดๆ ยอดฮิตของการลดน้ำหนัก

7 ความเชื่อผิดๆ ยอดฮิตของการลดน้ำหนัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนคงเคยได้ยินความเชื่อเกี่ยวกับการลดน้ำหนักมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แป้งทำให้อ้วน หลีกเลี่ยงอาหาร      ที่มีไขมัน หรือจะเป็นงดกินของทอดทุกชนิด Sanook! Health เลยรวบรวม  7 ความเชื่อผิดๆ แถมยังฮิตสุดๆ ของการลดน้ำหนักมาให้ระมัดระวังกัน

 

1. กินให้น้อยๆ

ร่างกายคนเรามีระบบเมตาบอลิซึม (ระบบเผาผลาญ) ซึ่งจะทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อได้รับสารอาหารที่น้อยลงจากปกติไปเรื่อยๆ จะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง จากนั้นร่างกายจะนำเอาไขมันมาเก็บเป็นพลังงานสำรอง ซึ่งแปลว่าน้ำหนักจะเริ่มไม่ลดลง และเมื่อกลับมากินแบบปกติจะเกิด “โยโย่เอฟเฟกต์” ตามมา ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้น กินอย่างพอเหมาะ คำนวณแคลอรี่ให้ดี ชีวิตนี้ห่างไกลพุงใหญ่ๆแน่นอน

2. ฝืนในสิ่งที่ไม่อยากทำ เพื่อให้ลดน้ำหนักได้

การลดน้ำหนัก/ไขมันมีมากมายหลายวิธี ไม่จำเป็นว่า จะต้องเดินเข้าฟิตเนสอย่างเดียว การวิ่ง กระโดดเชือกหรือการเล่นกีฬาต่างๆ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล ก็สามารถลดน้ำหนักได้ ขอแค่ให้พลังงานที่รับเข้า น้อยกว่าที่ใช้ไป เลือกวิธีที่เราชอบ การได้ทำในสิ่งที่ชอบย่อมทำได้นาน

3. กินหลัง 6 โมงเย็นแล้วจะอ้วน

แท้จริงแล้วจะอ้วนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับแคลอรี่ต่อวันที่เราได้รับ ถ้ารับแคลอรี่มากกว่าที่ใช้ออกไป ยังไงก็อ้วน เพราะฉะนั้นจึงมีคำแนะนำมากมายให้ออกกำลังกายสม่ำเสมออาทิตย์ละ 3-5 วัน เพื่อให้ร่างกายได้เผาผลาญแคลอรี่ออกไป เมื่อแคลอรี่ที่ใช้ออกไปมีมากกว่าที่ได้รับ ไม่ว่ากินเวลาไหน ยังไงก็ผอม

4. ยิ่ง Detox ยิ่งลดไขมันได้

เมื่อพูดถึง Detox ก็จะนึกถึงพวกน้ำผัก น้ำผักไม่ค่อยจะมีคาร์โบไฮเดรตสักเท่าไหร่ เมื่อเราไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตหรือรับน้อยลงจากปกติ จะส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงค่อนข้างเร็ว อาจจะลดได้ถึง 3-5 กิโลเลยทีเดียวในช่วงแรก แต่นั่นก็คือน้ำหนักของน้ำซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่ไขมันทั้งหมด เพราะฉะนั้นหากอยากลดไขมันในร่างกาย หันมากินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หุ่นเฟิร์มไม่หนีไปไหนแน่นอน

5. งดกินไขมันทุกชนิด

ไขมัน มีหน้าที่ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย นอกจากนั้นยังมีความจำเป็นในการสร้างฮอร์โมนเพศ โดยปกติร่างกายคนเราต้องการสารอาหารที่ครบ 5 หมู่ เพื่อรักษาสมดุลในร่างกาย หนึ่งในนั้นคือ ไขมัน ซึ่งมีทั้งไขมันที่ดีและไม่ดี  ไขมันดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้ ตัวอย่างไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า และปลาทะเลน้ำลึกเป็นต้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรหันมาบริโภคไขมันดีในปริมาณที่พอเหมาะดีกว่างดไขมันทุกชนิด เพื่อสุขภาพที่ดี

6. สลัด อาหารที่ดีของคนลดน้ำหนัก

เมื่อคิดถึงอาหารที่จะใช้ในการลดน้ำหนัก ไม่ว่าหญิงหรือชาย มักจะพุ่งเป้าไปที่ สลัด เพราะผักมีแคลอรี่ต่ำ เหมาะแก่การกินในช่วงลดน้ำหนัก แต่กลับลืมนึกถึงว่า สลัดก็ต้องคู่กับน้ำสลัด ซึ่งน้ำสลัด นี่แหละคือตัวการที่ทำให้จากแคลอรี่ต่ำๆ สูงขึ้นทันตา ตัวอย่างน้ำสลัดที่มีแคลอรี่สูง เช่น มายองเนส น้ำสลัดงา เป็นต้น ดังนั้นควรเลือกน้ำสลัดที่ไม่มีน้ำมันหรือถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใส่ในปริมาณที่น้อย

7. ออกกำลังกายหนักๆ ช่วยได้

การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรอยู่ในความพอดี หากหักโหมมากเกินไป ร่างกายจะรับไม่ไหวและอาจเกิดภาวะ “โอเวอร์เทรน” ทำให้อ่อนเพลีย ไร้เรี่ยวแรง เบื่ออาหาร นอกจากที่จะต้องพักออกกำลังกายแล้ว อาจทำให้เสียงานได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรหักโหมมากเกินไป กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว คนเราก็ไม่ได้ผอมเพียงแค่ออกกำลังกายวันเดียวเช่นกัน ทุกอย่างต้องใช้เวลา

                                   

เมื่อรู้กันอย่างนี้แล้ว ใครที่กำลังเข้าใจผิดอยู่ก็อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันด้วยล่ะ เพียงแค่หันมา ออกกำลังกายและคุมอาหาร เพียงเท่านี้ น้ำหนักของเราจะลดลงไปพร้อมกับการมีสุขภาพดีอย่างแน่นอน

 

Story : Martmatt
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก planforfit.com, cheewajit.com, health.campus-star, lovefitt.com
ภาพประกอบจาก pixabay

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook