วิตามินแบบสูบ คืออะไร ได้ผลดียังไง

อย่าหลงเชื่อ! “วิตามินแบบสูบ” วิธีรับวิตามินเข้าร่างกายแบบใหม่ที่แทบไม่ได้ผล

อย่าหลงเชื่อ! “วิตามินแบบสูบ” วิธีรับวิตามินเข้าร่างกายแบบใหม่ที่แทบไม่ได้ผล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โลกออนไลน์แห่แชร์สินค้าทางสุขภาพรูปแบบใหม่ “วิตามินแบบสูบ” อ้างว่าใส่วิตามินเข้าไปสารพัด รับเข้าร่างกายโดยใช้วิธีสูบ แต่เหล่าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ทั้ง ทนพ. ภาคภูมิ เดชหัสดิน จากเพจ หมอแล็บแพนด้า” อ. เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จากเพจ Jessada Denduangboripant และหมอแมวจากเพจ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว ต่างให้ข้อมูลที่ตรงกันว่า การรับวิตามินเข้าร่างกายในรูปแบบนี้ ให้ผลน้อยมาก เพราะปริมาณวิตามินที่ใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์มีปริมาณน้อยเกินไป และยังไม่มีผลงานวิจัยออกมายืนยันที่ผลที่เกิดขึ้นหลังใช้ผลิตภัณฑ์อย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังไม่ได้รับการรับรองจาก อย. หรือหน่วยงานรัฐใดๆ อีกด้วย

สำหรับ วิตามิน หรืออาจเรียกว่า ไวตามิน (Vitamin) นั้นเป็นสารอาหารประเภทหนึ่งทำหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย คนที่ขาดวิตามินอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากมาย ถ้าไม่นับ ‘วิตามินแบบสูบ’ คนในสมัยโบราณมีวิธีการนำวิตามินเข้าสู่ร่างกายในรูปแบบของอาหารที่ไว้รับประทาน ย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยอียิปต์โบราณ คนในยุคนั้นเชื่อว่าการกิน ‘น้ำมันตับปลา’ จะช่วยให้หายจากอาการตาบอดกลางคืน ส่วนในยุคปัจจุบันที่มีความเจริญในเรื่องของการแพทย์ ศัลยแพทย์ชาวสก๊อตได้ทำการสังเกตแล้วพบว่า ไก่ที่กินข้าวแบบไม่ขัดสีจะไม่มีอาการเหน็บชาเกิดขึ้น นับแต่นั้น ข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการค้นพบโดยบังเอิญและจากการเฝ้าสังเกต มนุษย์ก็ได้นำมาประยุกต์ใช้จนเป็นวิทยาการความรู้ในปัจจุบัน โดยวิตามินสำคัญๆ ที่ถูกค้นพบก็ได้แก่ วิตามินเอ (A), บี1 (B1), บี2 (B2), บี3 (B3), บี5 (B5), บี6 (B6), บี7 (B7), บี9 (B9), บี12 ( B12), ซี (C), ดี (D), อี (E ) และ เค (K)

นอกจากนี้ อ. เจษฎา ยังกล่าวอีกว่า รูปแบบของผลิตภัณฑ์ได้รับการพัฒนามาจาก “บุหรี่ไฟฟ้า” โดยไม่ใส่นิโคติน แล้วนำวิตามินลงไปใส่แทน แต่ปริมาณไม่เพียงพอเมื่อใช้วิธีสูบเข้าปอด เพราะนอกจากสารต้องมีขนาดเล็กมากพอต่อการเข้าไปสู่ถุงลม และลำเลียงเข้าสู่กระแสเลือดได้แล้วนั้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือวิตามินจะเสียสภาพเมื่อถูกความร้อน จนทำให้วิตามินลดประสิทธิภาพลง และอาจกลายเป็นสารอันตรายได้

ทั้งนี้ หมอแมวเสริมว่า วิตามินแบบสูบมีปริมาณวิตามินน้อยกว่าวิตามินเม็ดละบาทที่เราเคยทานกันเสียอีก ดังนั้น Sanook! Health แนะนำว่า หากอยากมีร่างกายแข็งแรงจากวิตามิน ควรทานผักผลไม้สดๆ หรือเพิ่มเติมด้วยวิตามินเสริมแบบเม็ดจะดีกว่าค่ะ

 

 

 

การใช้วิตามินเป็นเวลานานๆ จะส่งผลเสียอะไรบ้าง ?

ในทางการแพทย์ วิตามินจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ วิตามินที่ละลายน้ำและวิตามินที่ละลายในไขมัน โดยวิตามินทั้งสองอย่างนี้นอกจากจะมีข้อดีแล้ว ก็ยังมีข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามประเภทหากใช้กับร่างกายเป็นระยะเวลานานๆ

วิตามินที่ละลายในน้ำ จะอยู่ในร่างกายได้นานเป็นเวลา 2 - 4 ชั่วโมง โดยส่วนที่เหลือจากการใช้งานก็จะถูกขับผ่านไตออกมากับปัสสาวะ ทำให้โอกาสที่วิตามินประเภทนี้จะสะสมอยู่ในร่างกายมีน้อย ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย และเหตุเพราะมีการสะสมในร่างกายน้อยนี่เอง เราจึงต้องบริโภคอาหารที่มีวิตามินเข้าไปเสริมอยู่อย่างสม่ำเสมอ

วิตามินที่ละลายในไขมัน ปกติแล้ววิตามินประเภทนี้มักจะสะสมอยู่ในไขมัน ซึ่งหากว่ามีการสะสมมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายคล้ายกับคนที่โรค

ขอบคุณข้อมูลจาก หมอแล็บแพนด้า Jessada Denduangboripant และ ความรู้สนุกๆแบบหมอแมว
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook